เรียน คุณ 55b65,

เนื่องด้วยคุณไม่ได้แจ้งว่าสาเหตุใดจึงจำเป็นต้องเลื่อนการมีประจำเดือน ในทางการแพทย์มีการปฏิบัติได้หลากหลายวิธีครับ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเปลืองยาคุมกำเนิดอีก 1 แผง อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับประทานยาคุมกำเนิดไปแล้ว ขอตอบคำถามพอสังเขปดังนี้

1. สามารถรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดสูตรผสมได้ต่อเนื่อง โดยที่ไม่ต้องเว้นช่วงเพื่อให้มีประจำเดือน เพื่อการรักษาโรค เช่น มีกลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (มีอาการปวดมากจนทนไม่ได้) หรือมีเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือมีก้อนชอคโกแลตซีสต์ หรือมีก้อนเนื้องอกที่มดลูก โดยการรับประทานยาจะต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 6 เดือน เพื่อเป็นการกดไม่ให้รังไข่มีการปลดปล่อยฮอร์โมนเพศมากระตุ้นเนื้อเยื่อเต้านม มดลูก เยื่อบุโพรงมดลูก คล้ายกับตอนที่มีการตั้งครรภ์ ดังนั้นหากไม่มีการเว้นช่วงให้มีประจำเดือน โอกาสในการตั้งครรภ์ย่อมน้อยมาก ๆครับ (น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์) แต่อาจพบปัญหาได้ หากยาคุมทั้งสองชนิดมีปริมาณฮอร์โมนเพศที่มากน้อยแตกต่างกัน โดยอาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย (ฮอร์โมนในแผงที่ 2 น้อยกว่าชนิดที่คุณรับประทานประจำ) หรือทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้อง ท้องอืด (ยาแผงที่ 2 มีปริมาณฮอร์โมนเพศสูงกว่าแผงประจำ)

2. เมื่อต้องการมีประจำเดือน ก็ให้หยุดยาก่อนวันที่ต้องการให้มีประจำเดือน 3-4 วัน ก็จะมีเลือดประจำเดือนมาตามปกติ หลังจากหยุดยาประมาณ 7-10 วันก็จะมีการกระตุ้นให้มีไข่ตกตามปกติ เมื่อคุณหยุดรับประทานยา โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์ก็จะกลับมาเป็นเหมือนปกติครับ

ขอแนะนำหากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไม่ทันการ เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือหากใช้ยาผิดก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตของมารดาและทารกได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเรา

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์