กระดานสุขภาพ

ต้องการถามว่าตอนนี้พึ่งรู้ว่าเป็นหนองใน ?
Nong*****s

29 มกราคม 2559 18:30:30 #1

ไม่ทราบว่าตอนนี้เป็นหนองใน ไม่ทราบว่าหนองในเทียม หรือแท้อ่ะครับ ดูยังไงอ้ะครับ แล้วถ้ามีหนองไหลออกมาต้องเช็ดเรื่อยรึป่าวครับ ? ผมกลัวมันจะไปติดที่อื่นอีก แล้วควรใช้ยาอะไรดีครับ ขอทราบราคาด้วยนะครับ ประมาณให้หน่อยครับ ขอทราบวิธีกินด้วยนะครับ ขอรายละเอียดเยอะ ๆ ผมไม่อยากเป็น มันเสี่ยงเป็นเอดส์ กลัววววว 

อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Nong*****s

29 มกราคม 2559 18:32:30 #2

แล้วผมจะรู้ได้ไงอ่ะครับ ว่าหมอตอบแล้ว ถ้าหมอมี E-mail ส่วนตัว ผมขอหน่อยนะครับ อยากปรึกษาไม่กล้าไปหาหมอที่โรงพยาบาล E-mail ผม 604.15.mingkwan@gmail.com นะครับ

Nong*****s

29 มกราคม 2559 18:32:30 #3

แล้วผมจะรู้ได้ไงอ่ะครับ ว่าหมอตอบแล้ว ถ้าหมอมี E-mail ส่วนตัว ผมขอหน่อยนะครับ อยากปรึกษาไม่กล้าไปหาหมอที่โรงพยาบาล E-mail ผม 604.15.mingkwan@gmail.com นะครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

20 กุมภาพันธ์ 2559 07:35:39 #4

ขอตอบวรมๆว่า ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่นมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง เช่นใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีการร่วมเพศ ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น โดยสรุป ถ้าคุณและแฟนไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็ไม่เป็น แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายมีความเสี่ยงก็มีโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอครับ ส่วนเรื่องเอดส์ ถ้ามีพฤติกรรมเสี่ยง คือไม่ใช้ถุงยาง แนะนำตรวจเลือดเอดส์โดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่ารตรวจครับ