เรียน คุณ koki.koniko,

เนื่องจากไม่ทราบข้อมูลว่ามีโรคแทรกซ้อนอื่นใดร่วมด้วยหรือไม่ เนื่องจากต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งเรื่องโรคร่วม ยาอื่นที่ใช้ร่วมด้วย แต่โดยข้อมูลยานี้ยาที่ยับยั้งไม่ให้มีการเต้นผิดจังหวะของหัวใจ ลดความต้องการออกซิเจนของกล้ามเนื้อหัวใจ ช่วยไม่ให้หัวใจต้องทำงานหนักโดยไม่จำเป็น การรับประทานยานี้ให้รับประทานยาเพียงวันละ 1 ครั้ง ควรเป็นเวลาใกล้เคียงกันของทุกวัน จะรับประทานยาก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เนื่องจากอาหารไม่มีผลต่อการดูดซึมตัวยา
อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจพบ เวียนศีรษะ มึนงง อ่อนเพลีย ความดันโลหิตลดต่ำลง หัวใจเต้นช้า คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูก เป็นต้น

การประเมินผลการใช้ยาต้องมีการใช้ยาอย่างต่อเนื่องประมาณ 14 วัน จึงค่อย ๆปรับเพิ่มขนาดยา โดยแพทย์มักเริ่มจากขนาดต่ำ ๆก่อน เนื่องจากหากให้ขนาดสูง ๆเท่าที่ใช้ในการรักษา อาจเกิดภาวะหน้ามืด เป็นลม หมดสติ จากภาวะความดันโลหิตลดต่ำลงมากเกิน ส่วนปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจ เช่นการใช้ยาอื่น ๆร่วมด้วย เช่น ยาลดน้ำมูก คัดจมูก ยาขยายหลอดลม เป็นต้น หรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนผสม เช่น ชา (รวมถึงชาเขียว) กาแฟ โกโก้ น้ำอัดลม (โดยเฉพาะน้ำดำ) ภาวะอื่น ๆที่กระตุ้นให้เกิดความเครียด เช่น การอดอาหาร อดนอน ตื่นเต้นเวลาเข้าสอบ หรือต้องออกไปนำเสนอหน้าชั้นเรียน หรือตื่นเวที ฯ หรือโรคอื่น ๆร่วมด้วย เช่น ธัยรอยด์ทำงานเกินกว่าปกติ ดังนั้นหากผ่านการรับประทานยาไปแล้ว 2-4 สัปดาห์ อาการต่าง ๆยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการเลวลง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อปรับเปลี่ยนขนาดยา หรือปรับชนิดยาให้เหมาะสมต่อไป

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่ ไบโซโปรลอล (Bisoprolol) เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร