กระดานสุขภาพ

ยาคุมร่วมกับยาอื่น
Wawa*****5

13 พฤษภาคม 2558 07:02:19 #1

สวัสดีค่ะ คุณหมอ โดยปกติกินยาคุมแบบแผง 28 เม็ด แล้วถ้ากินพวกอาหารเสริม Vitamin C หรือ ยาลดน้ำหนัก จะมีผลกระทบทำให้ยาคุมลดประสิทธิภาพลงไหมคะ 

อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.37 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Siwa*****h

13 พฤษภาคม 2558 13:54:17 #2

สวัสดีครับคุณ wawa2015

วิตามินซีทานร่วมกับยาคุมกำเนิดได้ครับ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ หรือยาลดน้ำหนัก คุณ wawa2015 สามารถให้ชื่อยาหรือส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้หรือไม่ครับ จะได้เป็นประโยชน์ในการตรวจหาปฏิกิริยาระหว่างยามากขึ้น

ภก.ศิวัสว์ ผุลลาภิวัฒน์

Wawa*****5

14 พฤษภาคม 2558 00:13:37 #3

ขอบคุณค่ะ 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

15 พฤษภาคม 2558 03:21:58 #4

เรียน คุณ wawa2015,

เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลชื่อยามา จึงตอบค่อนข้างยาก เนื่องจากยาคุมแต่ละชื่อการค้า จะมีส่วนประกอบแตกต่างกัน หากเป็นยาคุมกำเนิดชนิดปริมาณฮอร์โมนต่ำ อาจเสี่ยงต่อการเกิดปฏิกิริยาระหว่างกันได้ ทั้งยา อาหาร เครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่าง ๆ ต้องมีการประเมินความเหมาะสมของการใช้ยาร่วมกันเป็นครั้ง ๆไป โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนชนิดของยาแต่ละตัว เปรียบง่าย ๆ เสมือน คู่ชกนักมวยแต่ละคู่ ก็จะมีความเสี่ยงที่จะแพ้ชนะแตกต่างกัน หากยาคุมกำเนิดเป็นฝ่ายแพ้ หรือ ถูกกำจัดออกเร็วกว่าปกติ ก็จะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ หรือยาที่ต้องใช้ในการรักษาเป็นฝ่ายแพ้ หรือถูกร่างกายกำจัดและลดระดับในเลือดจนไม่เหลือผลในการรักษา ก็จะเสี่ยงต่อการรักษาไม่ได้ผล หรืออาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ขออนุญาตให้ข้อมูลโดยรวมพอสังเขปที่ต้องระมัดระวังในการใช้ยาร่วมกัน เช่น

- ไม่ควรรับประทานยา "ทุกชนิด" พร้อมกับเครื่องดื่มอื่น ๆ เนื่องจากอาจทำให้ตัวยาตกตะกอน ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาได้ เช่น ชา(รวมถึงชาเขียว) กาแฟ นม น้ำเต้าหู้ โกโก้ น้ำอัดลม โซดา หรือน้ำผลไม้บางชนิดหากดื่มปริมาณมาก ๆจะกระตุ้นให้ตับที่เป็นที่กำจัดยา สร้างเอนไซม์หรือน้ำย่อยเพิ่มมากขึ้น จึงกำจัดตัวยาได้มากและเร็วขึ้น จนเสี่ยงต่อการใช้ยาไม่ได้ผล เช่น น้ำส้มคั้น (รวมถึงส้มโอ) น้ำแอปเปิ้ล น้ำเกรปฟรุต น้ำแครนเบอร์รี เป็นต้น

- ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน "ยาตีกัน" จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ หรือใช้ยาไม่ได้ผล

กลับมาที่คำถามของคุณ หากต้องการรับประทานวิตามิน ซี ควรรับประทานยาหลังอาหารและดื่มน้ำสะอาดตามมาก ๆ เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อทางเดินอาหาร และวิตามินจะถูกกำจัดออกทางปัสสาวะ หากดื่มน้ำสะอาดไม่เพียงพอต่อวัน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการตกตะกอนเป็นนิ่วที่ไตได้

ยาคุมกำเนิด ควรรับประทานยาก่อนเข้านอน เพื่อให้เป็นช่วงท้องว่าง ลดโอกาสที่จะทำให้ตัวยาตกตะกอน ช่วยป้องกันการลืมรับประทานยา และป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียน จากปริมาณฮอร์โมนที่ได้รับเข้าไปได้

ส่วนยาลดน้ำหนัก ดูจากข้อมูลส่วนบุคคล น้ำหนักก็ยังอยู่ในเกณฑ์ ไม่ควรซื้อหามารับประทานเอง เนื่องจากต้องระวังยาปลอม หรือมีส่วนประกอบของยาที่ห้ามจำหน่ายปลอมปน เนื่องจากเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะลิ้นหัวใจรั่ว หัวใจวายได้ หรือหากเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก มักมีส่วนประกอบของสารที่ทำให้เกิดการพองในทางเดินอาหาร เช่นสารสกัดแมงลัก หรือเปลือกของเมล็ดพืชบางชนิด เมื่อรับประทานร่วมกันก็จะดูดน้ำรวมถึงตัวยาด้วย จนเหลือปริมาณยาไม่เพียงพอในการออกฤทธิ์ หรือในบางชื่อการค้ามักมีการผสมยาระบายด้วย เพื่อให้เกิดการขับถ่าย ช่วยให้รู้สึกเบาท้อง คิดไปเองว่าน้ำหนักลด แต่เมื่อรับประทานร่วมกัน ก็จะขับถ่ายตัวยาออกไปด้วย หากจำเป็นต้องรับประทานผลิตภัณฑ์จำพวกนี้ ต้องรับประทานยาที่ใช้รักษา "ก่อน" อย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยาได้ละลายและถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายก่อน

หากต้องการควบคุมน้ำหนัก ควรปรับพฤติกรรมสุขภาพ ทั้งเรื่องการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การนอนพักผ่อน

- เลือกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน ครบ 5 หมู่ เน้นผักสด ผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด แบ่งจานข้าวออกเป็น 4 ส่วน 2 ส่วนต้องเป็นผัก 1 ส่วนเป็นโปรตีน เน้นที่ย่อยง่าย ไขมันต่ำ เช่นเนื้อปลาทะเล เนื้อไก่ไม่เอาหนัง เลือกวิธีการปรุงที่เป็นการต้ม อบ นึ่ง หลีกเลียงการทอด อีก 1 ส่วนอาจเป็นแป้งไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ หรือขนมปังโฮลวีต โฮลเกรน เพื่อให้อยู่ท้อง และระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงทันที แต่ค่อนข้างสม่ำเสมอ พยายามรับประทานอาหารก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีการนำพลังงานไปใช้ และป้องกันการเกิดภาวะกรดไหลย้อน

- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เลือดไหลเวียนดี ช่วยทำให้มีกล้ามเนื้อเข้าไปแทนที่ไขมัน ป้องกันการกลับมาของไขมัน น้ำหนักอาจจะลงไม่มาก แต่ร่างกายจะดูเฟิร์มขึ้น ไม่มีไขมันเหลว ๆหรือเซลลูไลท์ นอกจากนี้ยังมีการหลั่งสารเอนดอร์ฟินจากสมอง ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขภ

- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน และควรเข้านอนก่อนเวลา 23.00 น. เพื่อให้ได้หลับลึกในช่วง 01.00-02.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายมีการสร้างและหลั่ง Growth Hormone ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์สมอง เสริมสร้างความแข็งแรงของเส้นใยคอลลาเจน การนอนดึกหรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะเครียด จะมีการหลั่งคอร์ติซอล ซึ่งเป็นสารจำพวกสเตียรอยด์ ที่ร่างกายมีการสร้างเพื่อช่วยชีวิตของร่างกาย โดยเฉพาะส่วนสำคัญ มีการเก็บกลับน้ำตาล ไขมัน และแคลเซียม รวมถึงเกลือ จึงเป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดโรคเบาหวาน ไขมัน ความดันโลหิตสูง ตัวบวมน้ำ กระดูกพรุน ในบางรายอาจไม่มีไข่ตก รวมถึงไม่มีประจำเดือนด้วย (เนื่องจากภาวะเครียด ร่างกายต้องการเอาชีวิตรอด ไม่พร้อมจะมีบุตร) นอกจากนี้คอร์ติดซอลยังส่งผลให้เส้นใยประสาทหดตัว เซลล์สมองขาดการประสานงาน จึงมักทำให้ความจำไม่ค่อยดี มึนงง

เป็นกำลังใจให้นะครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่กล่าวถึงยาที่ส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดบางส่วน

ยาลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด (Common medications that reduce efficacy of birth control medications) โดย ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม เภสัชกร

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

17 พฤษภาคม 2558 05:53:11 #5

โดยปกติแล้วยาคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน ซึ่งมีฮอร์โมนเป็นส่วนประกอบนั้นจะต้องไปเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบที่ตับ ดังนั้นยาหรือสารทุกอย่างที่มีผลต่อการทำงานของตับนั้นจะมีผลทั้งหมดครับ เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ยากันชัก แอลกอฮอล์ เป็นต้นครับ ซึ่งจะมีผลทำให้การประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดลดต่ำลงได้ ส่วนยาลดน้ำหนักนั้น หมอไม่แนะนำให้ทานนะครับ เพราะ ยาในกลุ่มนี้จะไม่บอกตัวยาหรือสารที่ชัดเจน นอกเหนือจากประสิทธิภาพการคุมกำเนิดแล้วอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้มากอีกด้วย ส่วน กลุ่มของวิตามิน C นั้น ไม่มีผลครับ ร่างกายจะดูดซึมได้ ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดครับ