กระดานสุขภาพ

กลัวว่าจะท้องคะ
Nine*****2

20 มีนาคม 2558 11:26:26 #1

สวัสดีคะ คุณหมอ 

ประจำเดือนหนูมาครั้งสุดท้ายวันที่10 กุมถาพันธ์ 2558(วันแรกที่ประจำเดือนมาในรอบเดือน) และในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 หนูได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยที่ไม่ได้สอดใส่แต่เพียงแค่ถูกันภายนอกเท่านั้นโดยหนูใส่กางเกงชั้นในอยู่แต่แฟนไม่ได้ใส่อะไรหนูและแฟนมีน้ำหล่อลื่นด้วยกันทั้งคู่แต่แฟนไม่ได้เสร็จนะคะมีสิทธิ์ที่จะท้องมั้ยคะ หลังจากนั้นเดือน มีนาคม ประจำหนูก็ยังไม่มาจนตอนนี้วันที่ 20มีนาคม 2558 แล้วคะ มีอาการเจ็บหัวนม ปวดท้องเหนือสะดือ ปวดท้องน้อยเป็นบางครั้ง ร่วมกับเสียดท้องฝั่งขวาเคยไปตรวจใส่ติ่งตอนเดือนกุมภาแต่ไม่พบ และมีตกขาวสีขุ่นหน่อยมาไม่มากคะ มีโรคประจำตัวคือโรคกระเพาะ และนอนตีสามตีสี่เพราะว่าเครียดและเป็นกังวลเรื่องว่าจะท้อง รบกวนคุณหมอช่วยตอบข้อสงสัยให้ด้วยนะคะ ขอขอบคุณล่วงหน้าคะ

อายุ: 16 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.53 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Nine*****2

20 มีนาคม 2558 11:40:32 #2

เสริมนะคะ ไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิดและตรวจครรภ์ใดๆทั้งสิ้นคะ

Nine*****2

22 มีนาคม 2558 16:17:13 #3

รบกวนคุณหมอช่วยตอบด้วยนะคะกลุ้มใจมากจริงๆคะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

23 มีนาคม 2558 16:31:34 #4

หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ

ส่วนลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ

ในเรื่องของตกขาวนั้น เบื้องต้นแล้ว ตกขาวที่อาจมีได้ช่วงนี้ ก็เป็นผลจากฮอร์โมนที่สูงขึ้นหลังจากไข่ ซึ่งจะอยู่ในช่วงกลางรอบเดือนครับ และสามารถพบสารคัดหลั่งนี้มากขึ้นจนถึงช่วงใกล้ๆมีประจำเดือนได้ครับ แต่จะไม่มีอาการผิดปกติ เช่น คัน กลิ่นเหม็น หรือ เลือดปนครับ ซึ่งไม่ผิดปกตินะครับ ดังนั้น หมอแนะนำให้สังเกตุอาการไปก่อน แต่หากหากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

Nine*****2

26 มีนาคม 2558 14:13:08 #5

แล้วแถวบริเวณท้องน้อยที่มันป่องๆละคะ แล้วก็ช่วงนี้ปวดท้องน้อยแล้วก็บริเวณฝั่งขวาบ่อยมากแต่แปปๆก็หายบางทีก็ฝั่งซ้ายบางทีก็ปวดทั้งท้อง อาจเกิดจากภาวะเครียดได้ไหมคะ เมนก็ยังไม่มีเลยคะ แล้วรู้สึกเจ็บหัวนมมากสัมผัสแค่ผ่านๆก็รู้สึกแล้วคะ รู้สึกหน้าอกใหญ่ขึ้นด้วย

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

28 มีนาคม 2558 13:47:01 #6

อาการต่างๆที่กล่าวมาในลักษณะนี้ อาจเป็นอาการของอาการก่อนมีประจำเดือนนะครับ เป็นผลจากฮอร์โมนก่อนที่จะมีประจำเดือนค่อนข้างสูง ส่งผลให้อาจมีอาการบวมขึ้น คล้ายบวมน้ำ อึดอัด ทานเก่ง หน้าอกขยายได้เล็กน้อย อาจหงุดหงิดได้ง่าย เป็นต้น

Nine*****2

28 มีนาคม 2558 17:22:52 #7

ขอขอบคุณคุณหมอเป็นอย่างมากในคำปรึกษาและคำแนะนำคะ ในคราวหน้าจะป้องกันให้ถูกต้องเพื่อความสบายใจคะตอนนี้ประจำเดือนมาแล้วสบายใจแล้วคะ