เรียน คุณ 2d2d6,

การรับประทานยาคุมกำเนิด เป็นการใช้ฮอร์โมนเพศยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกไปตลอดเดือน การรับประทานยาอื่น ๆร่วมด้วย หากมีผลต่อระดับฮอร์โมนเพศย่อมส่งผลให้ผลการคุมกำเนิดลดน้อยลง หรือทำให้เสี่ยงต่อการรักษาไม่ได้ผล ยาสตรีที่มีจำหน่ายในท้องตลาด เป็นการนำสมุนไพรที่มีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเพศเอสโตรเจนมาใช้ เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนเพศในร่างกาย มักนิยมใช้ในสตรีที่มีระดับฮอร์โมนผิดปกติ เช่น สตรีวัยใกล้หมดประจำเดือน หรือ ประจำเดือนมาผิดปกติ ไม่ควรรับประทานยาสตรีติดต่อกันนาน โดยไม่มีการตรวจจากแพทย์ เนื่องจากอาจกระตุ้นให้เกิดความผิดปกติของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ได้ เช่น เกิดก้อนเนื้องอกหรือซีสต์ที่เต้านมหรือมดลูกได้

ดังนั้น ไม่ควรใช้ยาสตรีร่วมกับยาคุมกำเนิด เนื่องจากจะต้านฤทธิ์กับยาคุมกำเนิดได้ หรืออาจเกิดการกระตุ้นให้เกิดก้อนซีสต์ที่เต้านม หรือเนื้องอกที่มดลูกได้

จากข้อมูลส่วนบุคคล น่าจะเริ่มจากการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ มีสารอาหารครบ 5 หมู่ มีการออกกำลังกายสม่ำเสมอ (อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และ 5 วันต่อสัปดาห์) นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ น่าจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น จะทำให้รอบประจำเดือนมาเป็นปกติมากขึ้น หรือหากปรับเปลี่ยนแล้วยังไม่ดีขึั้น แนะนำให้ปรึกษาสูติ-นรีแพทย์ เพื่อปรับเปลี่ยนชนิดของยาคุมกำเนิด ที่มีปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้น เพื่อปรับให้ฮอร์โมนเพศสมดุล อาจทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติได้มากขึ้น

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความจากกองบรรณาธิการของเราที่

• ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา (สูตินรีแพทย์)
• ยาสตรี ยาสตรีไม่ใช่ยาทำแท้ง (Tonic herb for women) โดย เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล