กระดานสุขภาพ

การทานยา ต้องดื่มน้ำเท่าไหร่เป็นอย่างน้อยคะ
Para*****a

6 กุมภาพันธ์ 2558 17:11:40 #1

การทานยาทุกชนิด ควรดื่มน้ำเท่าไหร่เป็นอย่างน้อยคะ คือส่วนตัวดื่มน้ำเกือบลิตร ต่อการทานยาหนึ่งครั้ง ไม่ทราบว่ามากไปหรือเปล่า เพราะส่วนตัวเมื่อทานยา(คุม) แล้วดื่มน้ำ รู้สึกว่ายาไม่ลงอ่ะคะ หรือสึกเหมือนมีอะไรขึ้นย้อนกลับมาตลอดเวลา หรือเกี่ยวกับกรดไหลย้อนคะ เดราะเคยไปหาหมอ ตอนนั้นมีอาการเริ่มเป็นกรดไหลย้อนด้วย

 

และอีกข้อหนึ่งคือ หากทานยาคุมแล้วช่วงหยุดยา7 วันนั้นมีประจำเดือนมาปกติแต่มาน้อย ไม่ทราบจะมีโอกาสท้องอีกหร่อไม่คะ

อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.55 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

8 กุมภาพันธ์ 2558 15:08:51 #2

เรียน คุณ parasra,

ขอแยกตอบเป็น 2 ประเด็นที่ถามมานะครับ

1. โดยทั่วไปการรับประทานยา"ทุกชนิด" ควรรับประทานร่วมกับน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มอื่น ๆอาจทำให้ตัวยาตกตะกอน เช่น ชา ชาเขียว กาแฟ นม (ผลิตภัณฑ์จากนม) น้ำเต้าหู้ โกโก้ น้ำอัดลม หรือกระทั่งน้ำแร่ ซึ่งหากรับประทานพร้อมกันจะทำให้ยาไม่ละลาย ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาได้ ส่วนน้ำผลไม้บางชนิด เช่น น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล น้ำเกรปฟรุต น้ำแครนเบอร์รี่ จะกระตุ้นให้ตับสร้างเอนไซม์ หรือ น้ำย่อยทีใช้ในการกำจัดตัวยาเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ตัวยาสำคัญถูกกำจัดได้มากและเร็วขึ้น จนลดต่ำลง ไม่สามารถแสดงผลในการรักษาได้ แต่หากต้องการทราบรายละเอียดคงต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเป็นรายตัวไป

2. การออกฤทธิ์ของยาคุมกำเนิดชนิดปกติ คือเมื่อรับประทานยาคุมกำเนิดแผงแรก เม็ดแรกภายในวันแรกที่มีประจำเดือน (หรือช้าสุด ไม่เกินวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน) ตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ตั้ืงแต่รับประทานยาเม็ดรแรกครบ 24 ชั่วโมง และยาจะออกฤทธิ์ต่อเนื่องเม็ดต่อเม็ด ดังนั้นจึงห้ามลืมรับประทานยา และไม่ควรรับประทานยาคลาดเคลื่อน +/- เกิน 1 ชั่วโมง เนื่องจากจะทำให้ระดับยาคุมฯในเลือดสูงบ้างต่ำบ้าง เมื่อสูงเกินไป ก็อาจเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ ท้องอืด แน่นท้อง หรือเมื่อลดต่ำลง อาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฉีกขาดก่อนกำหนด จึงเกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือนได้ เมื่อรับประทานยาครบ 21 เม็ด แล้ว ไข่ที่จะเจริญเติบโต เมื่อถูกยับยั้ง ก็จะฝ่อไปเอง (เหมือนไข่ลมของไข่ไก่) ในช่วง 7 วันจะเป็นช่วงที่เหมือนกับธรรมชาติ ระดับฮอร์โมนเพศลดต่ำลง จนทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกฉีกขาด และกลายเป็นเลือดประจำเดือนในแต่ละเดือน ซึ่งจะมาน้อยหรือมากวัน หรือปริมาณมากน้อยแตกต่างในแต่ละบุคคล

ดังนั้นช่วง 7 วัน จึงไม่มีการสร้างไข่ จึงไม่มีโอกาสตั้งครรภ์ครับ ยกเว้นว่าการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงดังกล่าว ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย เพื่อสุขอนามัย ป้องกันการติดเชื้อของช่องคลอดหรือมดลูก (เหมือนกำลังเป็นแผล จึงติดเชื้อได้ง่าย) และไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อในท่อปัสสาวะของเพศชาย

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Para*****a

8 กุมภาพันธ์ 2558 16:55:28 #3

ขอบคุณคะ 

แล้วตกลงต้องดื่มน้ำต่อการทานยาหนึ่งครั้ง อย่างน้อยเท่าไหร่ถึงจะดีและไม่มากเกินไปคะ เพราะส่วนตัวดื่มน้ำมาก ดื่มไปเกือบลิตร

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

10 กุมภาพันธ์ 2558 16:18:52 #4

เรียน คุณ parasra,

ขอโทษครับ ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องโรคไตหรือภาวะหัวใจวาย แนะนำให้รับประทานยาโดยดื่มน้ำสะอาดตาม 1-2 แก้ว ครับ เพื่อให้ตัวยาไหลลงไปตามทางเดินอาหาร และไม่ติดที่หลอดอาหาร หลังจากรับประทานยาหรืออาหาร ไม่ควรเอนตัวลงนอน อย่างน้อย 1 ชั่วโมง ควรอยู่ในท่าลำตัวตรง (นั่งหรือยืนหรือเดินก็ได้ครับ) เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารหรือยาไหลย้อนกลับขึ้นมาที่หลอดอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคกรดไหลย้อน ยิ่งควรต้องงดผลิตภัณฑ์จากนม โดยเฉพาะช่วงบ่ายหรือเย็น รับประทานอาหารมื้อเย็นก่อนเข้านอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้โรคนี้กลับมาเป็นซ้ำอีก งดเครื่องดื่มพวกชา กาแฟ โกโก้ หรือน้ำอัดลม ซึ่งจะทำให้กระเพาะอาหารผลิตน้ำย่อยออกมามากขึ้น รายละเอียดสามารถสอบถามจากแพทย์ที่รักษาคุณ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล