กระดานสุขภาพ

หยุดยาคุมแล้วประจำเดือนไม่มา
Anonymous

15 ธันวาคม 2557 08:50:26 #1

กินยาคุมมา 4 ปี แล้วหยุดรับประทานมาประมาณ 1 เดือนแล้ว มาล่าสุดวันที่ 13-17/11/14  หลังจากนั้นมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางตลอด แต่วันที่ 2/12/14 มีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกไม่ได้ใส่ถุงยาง พอตอนเช้าก็รับประทานยาคุมฉุกเฉินเข้าไป แต่พอถึงกำหนดวันประจำเดือนมา กลับไม่มา แต่มีเลือดสีน้ำตาล ๆ ออกมา วันที่ 14/12/14   ประมาณ 2 หยดแห้ง และวันที่ 15/12/14 มีออกมาติดกางเกงในนิดหน่อยสีน้ำตาลเหมือนกัน  พอตรวจปัสสาวะก็ไม่พบการตั้งครรภ์  อยากทราบว่าอาการแบบนี้เป็นปกติของการหยุดยาคุมหรือไม่  มีโอกาสท้องสูงหรือเปล่า (กลัวท้องมาก)

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.70 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

16 ธันวาคม 2557 03:46:16 #2

เรียน คุณ 05908,

การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะใช้เมื่อไม่สามารถใช้วิธีการคุมกำเนิดตามปกติได้ เช่น เมื่อถูกข่มขืน หรือเมือ่ถุงยางอนามัยฉีกขาด รั่วซึม ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อ หรือใช้แทนการคุมกำเนิดตามปกติ เนื่องจากมีปริมาณฮอร์โมนค่อนข้างสูง (1500 ไมโครกรัม เมื่อเทียบกับยาคุมกำเนิดปกติ ประมาณ 50-75 ไมโครกรัม) และอัตราเสี่ยงในการตั้งครรภ์ยังสูงกว่าด้วย คือ 8-15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยาคุมกำเนิดปกติ 1-8 เปอร์เซ็นต์

ภายหลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินประมาณ 7-14 วันจะมีเลือดออกมา เป็นเลือดที่เกิดจากการฉีกขาดของเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดลอก เมื่อหยุดรับประทานยาคุมฮอร์โมนสูงแบบกระทันหัน ไม่ใช่เลือดประจำเดือน โดยประจำเดือนจะมาล่าช้ากว่าปกติประมาณ 7-14 วัน เนื่องจากฮอร์โมนขนาดสูงในยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะยับยั้งการทำงานของรังไข่และเยื่อบุผนังมดลูก

ดังนั้น หากเกินจากกำหนดที่ได้แจ้งแล้ว จึงค่อยใช้อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ กรณีของคุณถ้าแต่งงานแล้ว และต้่องการคุมกำเนิด วิธีการรับประทานยาคุมกำเนิดปกติ จะสะดวกกว่านะครับ และร่างกายไม่ต้องเสี่ยงรับฮอร์โมนขนาดสูง ๆจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน หรือหากไม่ต้องการรับประทานยาคุมกำเนิด ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากกว่าครับ เช่นการใส่ห่วงคุมกำเนิด หรือใช้ฮอร์โมนฝังใต้ผิวหนัง

ขอแนะนำเพิ่มเติม จากข้อมลูลยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ไม่ควรรับประทานยาเกิน 2 กล่องต่อเดือน เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นเหตุให้เสียชีวิตจากการตกเลือดในช่องท้องได้ แต่จากข้อมูลการศึกษาวิจัย การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมากเกินกว่า "3 กล่องตลอดชีวิต" จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งต่ออวัยวะต่าง ๆมากหลายเท่าเมื่อเทียบกับสตรีที่ไม่เคยได้รับยาคุมกำเนิดหรือเคยแต่รับประทานยาคุมกำเนิดปกติ ที่พบได้บ่อย คือ มะเร็งเต้านม มะเร็งมดลูก/รังไข่ หรือมะเร็งตับ เป็นต้น

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร "ก่อน" การใช้ยาเสมอ เนื่องจากการรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ อาจช้าไม่ทันการ เสี่ยงต่อสุขภาพและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

ขอแนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
การคุมกำเนิด (Contraception)

โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์