ถึง คุณ d4291

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ d4291 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

และหากครั้งต่อไปคุณ d4291 ต้องการปกปิดชื่อตนเอง สามารถเลือก "ไม่แสดงภาพและชื่อของผู้โพส" ทางด้านขวาเวลาตั้งกระทู้คำถามใหม่ค่ะ

เรียน คุณ d4291,

เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาหลังคลอด และการให้นมบุตรมา ขอให้ข้อมูลคร่าว ๆก่อนปรึกษาแพทย์ที่ทำคลอดให้ภรรยาคุณอีกครั้งนะครับ

- โดยทั่วไปหลังคลอด 2-3 เดือน ถ้ายังมีการให้นมบุตรอยุ่ ฮอร์โมนโปรแลกตินที่กระตุ้นการสร้างน้ำนม จะยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกตามธรรมชาติอยู่แล้ว

- หากยังไม่มีประจำเดือนมาตามปกติ โอกาสในการตั้งครรภ์ยิ่งน้อยลงไปอีกนะครับ

- หากต้องการคุมกำเนิดหลังคลอด และจำเป็นต้องให้นมบุตรอยู่ด้วย ถ้าไม่มีข้อห้ามใช้ในการใช้ยาคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมน แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนต่ำ ที่ไม่ส่งผลต่อการให้นมบุตรนะครับ เรียกทางการแพทย์ว่า Minipill เป็นฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนระดับต่ำ ๆที่ต้องรับประทานยาทุกคืน เพื่อทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นเหนียวจนอสุจิผ่านไปได้ยาก และเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวจนตัวอ่อน (หากมีการผสมของตัวอสุจิกับไข่) ไม่สามารถฝังตัวได้
คงตอบยากนะครับ ว่าควรรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหรือไม่ ขึ้นกับข้อมูลหลาย ๆปัจจัย แนะนำให้ปรึกษาถึงวิธีการคัดเลือกและวิธีการสวมถุงยางอนามัยที่ถูกต้องด้วย ควรมีการเล้าโลมก่อน เพื่อให้มีน้ำหล่อลื่นของเพศหญิงออกมา หรืออาจใช้เจลหล่อลื่นสูตรน้ำเพื่อให้การร่วมเพศไม่มีความเจ็บปวด ลดการเสียดสี (ห้ามใช้โลชั่นหรือวาสลีน จะทำให้ถุงยางอนามัยแตกฉีกขาดง่าย) เวลาสวมถุงยางอนามัย อย่าลืมบีบตรงปลายกะเปาะ เพื่อกันไม่ให้มีอากาศขังอยู่ภายใน ช่องรองรับน้ำอสจิ เวลามีเพศสัมพันธ์ ก็จะไม่แตกหรือฉีกขาดง่ายครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเรา โดยเฉพาะหัวข้อ Minipill

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์