กระดานสุขภาพ

Benzoyl [peroxide]
Chai*****t

26 ตุลาคม 2555 05:38:09 #1

Benzoyl [peroxide] 2.5% อยากทราบวิธีใช้ที่แท้จริง เพราะว่า วิธีใช้ ที่ติดมากับตัวยาก็ไม่ค่อยเข้าใจ  แล้ว บางคนก็มีวิธีทาที่แตกต่างกันไป บางคนทาทิ้งไว้ตลอดทั้งคืน  บางคนทาทิ้งไว้5-15 นาทีแล้วล้างออก  แล้วมีข้อบ่งชี้บอกว่า ยานี้อาจทำให้สีของเสื้อผ้าซีดจางได้  แล้วจะทำให้หน้าบางใหมครับ     เลยสับสนกับการใช้มากกครับ ช้วยตอบข้อสงสัยให้ผมทีนะครับ     ขอบคุณครับ..

อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ดัชนีมวลกาย : 0.00 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

27 ตุลาคม 2555 06:22:17 #2

ตัวยา Benzoyl Peroxide ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P. acne ที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ โดยจะปลดปล่อย Peroxide หรือ ออกซิเจนเข้มข้นออกมาจึงทำให้เชื้อตายได้ ไม่ค่อยพบปัญหาเชื้อดื้อยา จึงใช้ได้ผลดีกับบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ เป็นหนอง

 

ส่วนการใช้ที่คุณถามมานั้น ถูกต้องทัังหมด การเลือกใช้เหมาะกับผู้ป่วยแต่ละประเภท

 

1. หากเป็นวงกว้าง ปริมาณมาก หรือกลับเป็นซ้ำบ่อย ๆ แพทย์ผิวหนังมักจะให้ทาทิ้งไว้นาน เช่น 3-4 ชั่วโมง หรือหากสะดวก ก็จะให้ทาทิ้งไว้ทั้งคืน

 

2. หากเป็นสิวพื้นที่ไม่มาก หรือ ผิวบอบบาง มักจะให้ทาทิ้งไว้เพียง 15-30 นาที แล้วล้างออก
แต่หากรู้สึกแสบก่อน ก็ล้างออกก่อนได้ แล้วค่อยๆปรับเพิ่มครั้งละ 5 นาที จนรู้สึกว่าไม่แสบ และทนได้ตามเวลาที่จะช่วยลดปริมาณเชื้อก่อสิวอักเสบ

 

 

จากที่เคยแจ้งกลไกการออกฤทธิ์ จะปลดปล่อยเปอร์ออกไซด์ จึงทำให้สีเสื้อผ้าหรือปลอกหมอนซีดจางได้ คล้ายกับ Hydrogen Peroxide เข้มข้นที่ใช้กัดสีผม ก่อนทำสีนั่นเอง จึงต้องระวังการใช้หากจะทาทิ้งไว้ทั้งคืน ตัวยานี้ออกฤทธิ์ต่างกันกับครีมกรดวิตามินเอ ซึ่งจะเร่งการหลุดลอกของผิวชั้นนอก ซึ่งคุณเป็นห่วงว่าจะทำให้ผิวบาง แต่ครีมกรดวิตามินเอ ก็มีข้อดีนะครับ คือช่วยทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เพราะเราผลัดผิวที่อายุมาก และหมองคล้ำจากการถูกแดด ลม ออกไป แต่ยานี้ไม่เหมาะกับช่วงที่มีสิวอักเสบ เนื่องจากจะทำให้เห่อ แดงมากขึ้น (หมายเหตุ ยานี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายด้าน)

 

สรุปว่า หากคุณมีสิวไม่มากนัก ก็เลือกใช้วิธีที่ 2 แต่หากมีมาก และมักกลับเป็นซ้ำบ่อย ๆ ก็ใช้วิธีที่ 1
แต่ถ้ารู้สึกแสบก่อน ก็ให้ล้างออกก่อนได้ และค่อย ๆเพิ่มเวลาจนได้ตามต้องการ แต่การดูแลต้องรวมถึงการดูแลรักษาความสะอาดด้วย ล้างหน้าให้สะอาด แต่ไม่ขัดถูรุนแรง (เนื่องจากจะกระตุ้นให้ผิวอักเสบเพิ่มขึ้น) ไม่บีบหรือแกะสิว เพราะจะยิ่งทำให้เป็นแผลเป็น ซึ่งรักษายากกว่าสิวอักเสบ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ

 

ควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนทุกสัปดาห์ ซํกให้สะอาด อย่าเครียดมาก พยายามงดอาหารหวาน หรือขนมหวาน เนื่องจากมีงานวิจัย ระบุว่า ไม่ใช่ช็อคโกแลตที่ก่อให้เกิดสิว แต่เป็นน้ำตาลในส่วนผสมมากกว่า หวังว่าจะช่วยให้ใช้ยาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

 

เป็นกำลังใจให้หน้าใส ไกลสิวนะครับ

 


ภก.ประดิษฐ์ งามศิริล