กระดานสุขภาพ

สอบถามการทานยาคุม 28 เม็ดค่ะ
Anonymous

4 กันยายน 2557 14:57:40 #1

ประจำเดือนมาวันที่ 30 ส.ค. และได้ทานยาคุมแบบ 28 เม็ด (ยี่ห้อ ***) เม็ดที่ 1 ในวันที่ 2 ก.ย. พอวันที่ 3 ก.ย. ประจำเดือนหมด ไม่ทราบว่าหากทานยาคุมต่อไป จะได้ผลการคุมกำเนิด 100% หรือไม่ หรือ ควรหยุดยาใช้วิธีคุมแบบอื่น หรือ หากไม่หยุดยา จะสามารถมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้วิธีคุมอื่นได้ประมาณ ยาเม็ดที่เท่าไหร่ ขอบคุณค่ะ

อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.04 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

5 กันยายน 2557 10:24:40 #2

ถึง คุณ 95f07

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ 95f07 ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

5 กันยายน 2557 12:40:51 #3

เรียน คุณ 95f07,

จากข้อมูลที่คุณให้มานั้น ถ้าเป็นการเริ่มต้นรับประทานยาแผงแรก ให้รับประทานยาเม็ดแรกภายในวันแรกที่มีประจำเดือน (30 ส.ค. 57) เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงแรกที่รับประทานยา หรือช้าที่สุดคือไม่เกินวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน หากเป็นวันที่ 2 ก.ย. 57 ก็จะตรงกับวันที่ 4 ของประจำเดือน ยังไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด

ดังนั้น ตัวยาคุมกำเนิดยังคงออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้อยู่ครับ โดยทั่วไปการรับประทานยาคุมกำเนิดจะมีโอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์ 1 เปอร์เซ็นต์ โดยมีข้อแม้คือคุณต้อง

- รับประทานยาได้อย่างถูกต้อง และสม่ำเสมอทุกคืน เวลาคลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 ชั่วโมง ไม่ลืมรับประทานยา

- รับประทานยาด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มอื่น ๆเช่น ชา กาแฟ นม น้ำอัดลม ชาเขียว น้ำเต้าหู้ จะทำให้ตัวยาตกตะกอนและถูกดูดซึมน้อยลง

- ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกันจนเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนทำให้ยาคุมกำเนิดประสิทธิภาพลดลง แต่หากคุณปฏิบัติไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน โอกาสเสี่ยงในการตั้งครรภ์จะเพิ่มได้ถึง 8 เปอร์เซ็นต์

ขอแนะนำเพิ่มเติม จากข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ถ้าหากยังไม่ได้แต่งงาน และต้องมีเพศสัมพันธ์ การใช้วิธีสวมถุงยางอนามัยจะปลอดภัยกว่านะครับ นอกจากช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน พยาธิในช่องคลอด ไวรัสตับอักเสบบีหรือซี หรือเลวร้ายสุดคือ เอดส์ ซึ่งปัจจุบันนี้ยังไม่ทีทางรักษาให้หายขาด นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไวรัสเอชพีวี ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกในฝ่ายหญิงและมะเร็งองคชาติในเพศชาย คุณจะได้ไม่จำเป็นต้องรับฮอร์โมนติดต่อกันเป็นเวลานาน

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามจากเภสัชกรร้านยาได้โดยตรง อย่ารอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไม่ทันการ จนเสี่ยงต่อชีวิตของคุณหรือเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา สูตินรีแพทย์

Anonymous

8 กันยายน 2557 06:02:10 #4

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ