กระดานสุขภาพ

สอบถามเรื่องยาค่ะและความดันโลหิต
Anonymous

14 สิงหาคม 2557 04:30:43 #1

ดิฉับรับประทานยา Lamotrigine กับ Diazepam อยู่ค่ะ ตอนที่ไปตรวจกับคุณหมอก่อนได้รับยา ความดันโลหิตอยู่ที่ 120/85 ส่วนชีพจร 114 ซึ่งอาจจะเนื่องจากนอนไม่พอมาหลายวันและตื่นเช้ามาก และที่เคยวัดๆมาก็มักจะอยู่ที่ 120/80 ส่วนชีพจรก็แล้วแต่แต่ไม่เคยเกิน 100 ประมาณ 90 กว่าๆ

หลังจากกินยาไปช่วงหนึ่งมีโอกาสได้วัดความดันอีกครั้งอยู่ที่ 118/68 ชีพจร 85 เลยสงสัยว่าการกินยานี้ทำให้ความดันโลหิตลดลงหรือไม่คะ 

บางครั้งเวลาตื่นเช้ามากๆความดันมักจะสูงทำไมถึงเป็นแบบนั้นคะ บางทีถึงกับวัดไม่ได้เพราะเครื่องไม่สามารถวัดได้ด้วย

อีกอย่างดิฉันค่อนข้างจะท้องผูกบ่อยทั้งที่รับประทานผักมากและหมั่นออกกำลังกาย(เพิ่งมาทำสม่ำเสมอประมาณ 2 ปีค่ะ ก่อนหน้าไม่ค่อยได้ออกกำลังกายและไม่ได้กินผักมากเท่าไหร่) แต่ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงมีประจำเดือนแล้วต่อเนื่องมาประมาณ 4-5 วันถึงจะถ่ายเป็นทั้งถ่ายเหลว บางครั้งก็แข็ง แต่บางครั้งก็ต้องใช้ยาช่วย ไม่ทราบว่าระหว่างที่รับประทานยานี้สามารถรับประทานยาถ่ายได้หรือไม่คะ ไม่ทราบชื่อยาแต่เป็นแบบน้ำสีขาวค่ะ บางทีก็เป็นแบบเม็ดเล็กๆเคลือบสีเหลืองซื้อจากร้านขายยาค่ะ แต่ก็ไม่ได้กินประจำ เผื่อท้องผูกอีกจะกินยาพวกนี้จะมีผลอะไรต่อยาที่กินอยู่หรือเปล่าคะ

 

อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 57 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.55 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

15 สิงหาคม 2557 04:05:21 #2

เรียน คุณ 1b0fd,

เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลมาว่าใช้สำหรับรักษาอาการใด ตัวยาทั้งสองสามารถรักษาได้หลายประการครับ ขอตอบเฉพาะที่สามารถตอบคำถามได้นะครับ

1. อาจเกิดได้จากหลายประการครับ เช่น ตื่นเต้นเมื่อต้องพบแพทย์ หรือเพิ่งเดินเข้าไปเหนื่อย ๆ หรือการใช้เครื่องไฟฟ้า กับเครื่องที่แพทย์วัดซึ่งละเอียดกว่า แต่จากตัวเลขที่คุณให้มาความดันโลหิตก็ไม่สูงนะครับ ชีพจรอาจเต้นเร็วไปบ้าง ก็มีหลายปัจจัย ทั้งเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ชา ชาเขียว กาแฟ โกโก้ น้ำอัดลม

2. การตื่นนอนมักจะมีการเปลี่ยนแปลงของหลายสารเคมีในร่างกาย เช่นเปลี่ยนจากท่านอน เป็นนั่งหรือยืน หัวใจก็ต้องมีการสูบฉีดไปเลี้ยงสมองเพิ่มขึ้น หากยังเป็นบ่อย ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์จะดีกว่าครับ เนื่องจากต้องมีการตรวจร่างกายโดยละเอียด ไม่สามารถคาดเดาได้

3. อาการท้องผูก ลองปรับพฤติกรรมสุขภาพดูก่อนนะครับ เพิ่มผัก ผลไม้ที่มีกากใยสูง และมีรสไม่หวานจัด เช่น จำพวกคะน้า บร็อคโคลี ผักกะหล่ำปลี กล้วยไข่ ส้มเขียวหวาน มะละกอ พวกแตง จะมีกากใยค่อนข้างน้อย ครับ เช่น แตงกวา หรือแตงโม จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบสูง งดเครื่องดื่มจำพวก ชา ชาเขียว กาแฟ น้ำอัดลม ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ หากไม่มีข้อจำกัดเรื่องโรคไต อย่างน้อย 3 ลิตรต่อวัน ตั้งขวดบรรจุน้ำขวดละ 1 ลิตร 3 ขวดไว้เลย จะได้ทราบง่าย จะช่วยให้อุจจาระนิ่มลงได้

หากยังมีอาการท้องผูกอีกแนะนำวิธีธรรมชาติ ให้รับประทานมะขามเปียกนึ่งร่วมด้วย จะช่วยให้ขับถ่ายง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้ยาโดยไม่จำเป็น

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Anonymous

15 สิงหาคม 2557 08:01:10 #3

ขอบคุณค่ะ เป็นยาที่หมอให้มารักษาโรคซึมเศร้าน่ะค่ะ

ไม่ดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือน้ำอัดลมเลยค่ะ นานๆจะดื่มสักครั้ง

ตอนนี้เพิ่มผักเยอะขึ้นมากค่ะ สังเกตเวลากินข้าวกับพ่อแม่เวลาแบ่งจานผักพ่อกับแม่จานนึง ส่วนของดิฉันเองจานนึงน้อยกว่านิดหน่อยแต่พร่องไปเยอะกว่าของพ่อกับแม่รวมกันเยอะเลย แต่พ่อกับแม่ไม่มีปัญหาท้องผูกเลยค่ะ แต่บางครั้งก็ยังมีปัญหาอยู่เป็นไปได้ไหมคะเกี่ยวกับเวลามีประจำเดือนแล้วก็สงสัยดื่มน้ำน้อย เคยใส่น้ำตั้งไว้อย่างที่บอกเลยค่ะ ไปๆมาๆไม่รู้ใครเอาขวดไปไหนเลยไม่ได้ทำ

เรื่องความดันเคยตื่นแต่เช้าไปตรวจฟันเพราะมีอาการปวด วัดกับเครื่อง 3 ครั้งไม่ได้ มันไม่ยอมอ่านค่าขึ้น error ตลอด จนพยาบาลมาวัดให้กับที่เป็บบีบๆน่ะค่ะ พบว่าความดันสูงต้องพักนานมาวัดอีกทีถึงจะปกติ จะเป็นเวลาต้องตื่นเช้ามากๆ ซึ่งก็ไม่บ่อยเพราะมันรู้สึกไม่ดีด้วย

 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

16 สิงหาคม 2557 17:09:33 #4

เรียน คุณ 1b0fd,

จากข้อมูลที่คุณให้มาเพิ่มเติม อาการใจสั่นหรือความดันโลหิตสูง น่าจะเป็นจากโรคเดิมที่คุณเป็นอยู่นะครับ พยายามรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากโรดนี้ต้องรักษาอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ปี เพื่อปรับสารสื่อประสาทในสมองให้เข้าสู่สมดุล ไม่ควรหยุดยาเองโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ อาการท้องผูกในช่วงมีประจำเดือนก็อาจเป็นไปได้ครับ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศ ซึ่งคล้ายกับที่พบได้ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างมาก

ส่วนขวดน้ำเป็นแค่แนวคิดครับ ลองใช้วิธีอื่น ๆก็ได้ หรือจะใช้ขีดบนกระดาษ เมื่อดื่มน้ำครบกี่แก้วก็ทำได้ ควรดื่มน้ำมาก ๆเนื่องจากตัวยา lamotrigine จะถูกกำจัดที่ตับ และขับออกทางไต คุณก็จะได้ประโยชน์ทั้งเรื่องท้องผูกจากการดื่มน้ำน้อย และช่วยในการกำจัดยาส่วนเกินออกจากร่างกายด้วย

ส่วนเรื่องความดันโลหิตถ้ายังคงสูงอยู่ตลอด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ อาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง
แต่กรณีไปทำฟัน พบได้ค่อนข้างบ่อยครับ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีประวัติกลัวหมอฟันตั้งแต่เด็ก หรือเคยต้องถูกถอนฟัน เมื่อเกิดความเครียด หรือตื่นเต้น ร่างกายก็จะมีชีพจรและความดันโลหิตที่สูงขึ้น คล้ายกับเมื่อเราต้องวิ่งหนีอะไรที่น่ากลัว หรือในกรณีหนีไฟไหม้ ในบางรายถึงกับเป็นลมไปเลยก็มีครับ ดังนั้น พยายามทำใจให้สบาย อย่ากลัว อย่าเครียด แจ้งแพทย์ก่อนว่าเคยมีประวัติกลัว หรือตื่นเต้นเมื่อต้องพบแพทย์หรือทันตแพทย์ จะได้แจ้งรายละเอียดการตรวจรักษาให้คุณทราบ ไม่ต้องคิดมากหรือจินตนาการไปไกล จนเกิดความเครียดเพิ่มขึ้นกว่าปกติ

ในผู้ป่วยซึมเศร้าหลายรายพบว่าอาการดีขึ้นอย่างมาก เมื่อได้ออกกำลังกาย และได้ฝึกนั่งสมาธิ ลองทำดูนะครับ จะได้ไม่ต้องรับประทานยาในขนาดสูง ๆ อย่างน้อยสุขภาพคุณก็แข็งแรงขึ้น มีสมาธิและความจำดีขึ้นด้วย

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Anonymous

17 สิงหาคม 2557 14:44:51 #5

ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูล เรื่องขวดน้ำนี่เคยทำมาแล้วแต่ทำๆเลิกๆ ขีดบนกระดาษหรือกระทั่งใช้แอปยุ่งยากกว่าตวงใส่ขวดไว้น่ะค่ะ ไม่ค่อยรู้สึกอยากจะดื่มน้ำด้วย จะพยายามดื่มให้เยอะๆค่ะ ขอบคุณที่แนะนำนะคะ^^