กระดานสุขภาพ

ยา Oflocee 200 mg.
Anonymous

11 สิงหาคม 2557 11:29:06 #1

หมอจ่ายยานี้ให้เพื่อรักษาอาการกระเพาะปัสาวะอักเสบค่ะ อยากจะเรียนถามว่า

1. ยานี้มีผลต่อการรับประทานยาคุมกำเนิดไหมค่ะ(ตอนนี้ทานยาสมินอยู่ค่ะ)

ขอสอบถามเพิ่มเติมเรื่องยาคุมกำเนิดด้วยค่ะ

รับประทานยาคุมกำเนิดช้าไป2 ชม. ในคืนที่มีเพศสัมพันธ์พอดี จะท้องไหมค่ะ

(ปกติจะรับประทานตอน4ทุ่ม แต่คืนนั่นนึกขึ้นได้เลยทานตอนเที่ยงคืน)

 

อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 161ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.60 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

11 สิงหาคม 2557 16:42:40 #2

ถึง คุณ 7aa17

เนื่องจากเว็บไซต์เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นเพื่อให้ข้อมูลเป็นเรื่องส่วนบุคคลมากที่สุด ทางทีมงานจึงทำการซ่อนชื่อจริงของผู้ถามให้นะคะ โดยคุณ 7aa17 ยังสามารถติดตามคำตอบคุณหมอได้ที่กระทู้นี้ค่ะ

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

13 สิงหาคม 2557 01:12:25 #3

เรียน คุณ 7aa17,

จากข้อมูลที่คุณให้มาไม่ได้แจ้งว่ามียาอื่นรับประทานร่วมด้วยหรือไม่ สอบถามมาตัวยาเดียว จึงแจ้งเฉพาะข้อมูลยา ofloxacin 200 MG เท่านั้น

1. จากข้อมูลตัวยาไม่พบว่ามีรายงานทำให้ยาคุมกำเนิดมีปริมาณลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ที่คุณมีอาการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ ควรงดมีเพศสัมพันธ์เพื่อลดอาการอักเสบติดเชื้อ หรือการติดเชื้อซ้ำกลับไปมา เนื่องจากในเพศชายมักไม่ค่อยมีอาการแสดงออกชัดเจน หรือใช้วิธีการสวมถุงยางอนามัยร่วมด้วย ทั้งขณะรับประทานยา และหลังจากรับประทานยาปฏิชีวนะ ofloxacin หมดไปแล้วอีก 4-5 วัน เพื่อให้อาการติดเชื้อหายขาด และนอกจากนั้น ยังรอจนกว่าระดับยาคุมกำเนิดจะกลับเข้้าสู่ระดับปกติ ตัวยานี้จะถูกดูดซึมได้ดี ขณะท้องว่าง แต่หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ควรปรับเป็นรับประทานยาหลังอาหารทันที แต่ไม่ควรรับประทานพร้อมนม ยาลดกรด หรือวิตามินที่เสริมธาตุเหล็ก เนื่องจากตัวยาจะจับเป็นตะกอนเชิงซ้อน ไม่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ ยาถูกกำจัดออกทางปัสสาวะ ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำสะอาดตามมาก ๆ อย่างนอ้ย 8-10 แก้วต่อวัน และยังช่วยกำจัดเชื้อออกทางปัสสาวะด้วย ควรปรับพฤติกรรมสุขภาพ ไม่อั้นปัสสาวะนาน ๆ โดยไม่จำเป็น เนื่องจากเมื่อปัสสาวะค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะนาน จะมีการเจริญเติบโตของเชื้อได้ หากอาการรุนแรง มักจะย้อนขึ้นไปถึงไต

และหลอดเลือดในไต จนเป็นสาเหตุของโรคไตวายได้

2. กรณีลืมรับประทานยา ให้รับประทานทันทีที่นึกได้ หรือหากใกล้เวลาของคืนถัดไป ให้รับประทานยาพร้อมกัน 2 เม็ดเลยครับ เพื่อให้ระดับยาในเลือดกลับสู่ระดับที่สามารถออกฤทธฺ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ดังเดิม ดังนั้นกรณีของคุณ การรับประทานล่าช้าไป 2 ชั่วโมง ตัวยาก็ยังคงมีประสิทธิภาพดังเดิม การรับประทานยาทุกชนิด ควรรับประทานด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น ไม่ควรรับประทานด้วยเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น ชา กาแฟ นม โกโก้ หรือน้ำแร่ เนื่องจากตัวยาอาจจับเป็นตะกอน ร่างกายไม่สามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ และควรรับประทานยาคลาดเคลื่อนจากเวลา +/- ไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ระดับยาในเลือดสม่ำเสมอ ลดโอกาสการเกิดเลือดออกกะปริบกะปรอย จากภาวะที่ระดับยาในเลือดลดต่ำลง
ไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆมาใช้ร่วมกัน โดยที่ยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนระดับยาลดต่ำลงจนไม่สามารถแสดงผลในการรักษาได้ หรืออาจเกิดปฏิกิริยารุนแรง จนถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามจากแพทย์หรือเภสัชกรทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ ซึ่งอาจช้าจนสายเกินการแก้ไข และเมื่อไปพบแพทย์หรือรับบริการทางแพทย์ กรุณาแจ้งรายการยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้กับแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ที่คุณไปใช้บริการทุกครั้ง เพื่อเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับคุณ หรือเกิดอันตรายกับคุณน้อยที่สุด ยกตัวอย่างเช่น บางท่านคิดว่ารับประทานสารสกดัแป๊ะก๊วย คงไม่เป็นไร แต่สารสกัดนี้มีผลทำให้เลือดแข็งตัวช้า เมื่อแพทย์สั่งฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อให้กับผู้ป่วย พบว่าเกิดเลือดออกในชั้นกล้ามเนื้อ
ต้องกลับมานอนพักรักษาตัวนานเป็นสัปดาห์ เป็นต้น

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Anonymous

13 สิงหาคม 2557 12:16:17 #4

จริงๆแล้ว คุณหมอจ่ายยาURISPAS 100 mg. ให้ด้วย ลดการปัสาวะบ่อยแต่ไม่ได้ทานค่ะ

เพราะไม่ได้ปัสาวะบ่อยมากค่ะ...คือไปพบคุณหมอด้วยอาการปวดระบมท้องน้อย(จากการมีเพศสัมพันธ์)

ก็เล่าให้คุณหมอฟังว่ามีเพศสัมพันธ์แล้วแฟนกระแทรกแรงค่ะ คุณหมอถามว่าปัสสาวะแสบขัดไหม เลยตอบว่าค่ะ...คุณหมอไม่ได้สั่งตรวจปัสาวะแล้วสรุปว่ากระเพาะปัสสาวะอักเสบ..ส่วนเจ็บจากการกระแทรกหมอจ่ายยาพาราให้ค่ะ

แต่ในใจก็คิดว่าอย่างอื่นน่าจะอักเสบมากกว่า..แต่ก็เชื่อหมอค่ะ

 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

15 สิงหาคม 2557 03:38:12 #5

เรียน คุณ 7aa17,

โดยตัวยาเสริมที่แพทย์จ่ายให้รับประทานร่วมกับยาปฏิชีวนะ แนะนำให้รับประทานร่วมกันนะครับ เนื่องจากตัวยา Urispas มีฤทธิ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณท่อปัสสาวะ เพื่อให้ปัสสาวะได้หมด ลดอาการปัสสาวะขัด หรือปัสสาวะไม่สุด นอกจากนั้นยังมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดบริเวณหัวเหน่า ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการที่คุณไปพบแพทย์

ส่วนอาการที่คุณแจ้งแพทย์นั้น ไม่จำเป็นต้องส่งตรวจปัสสาวะ เนื่องจากมีอาการที่ค่อนข้างชัดเจน ทางการแพทย์มีชื่อเล่นที่เรียกกันว่า "Honeymoon disease" ซึ่งมักพบในคู่สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงาน และมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง จนอาจเกิดการอักเสบ ติดเชื้อได้ ดังนั้น กรุณาสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เมื่อรับยา จะได้ใช้ยาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล