กระดานสุขภาพ

ขอคำแนะนำการใช้ยา เพื่อ ช่วยแก้ ท้องผูกครับ
Napp*****Z

29 เมษายน 2557 15:48:34 #1


คือมีอาการ ท้องผูก  ถ่ายยาก แข็งมาก
ผมกิน ยาหลายตัวช่วย 
ทั้ง Senokot  

milk of magnesia  

mucilin

ผลก็คือ  มันก็ออก แต่มันออกเหลวๆ  แต่รู้สึกออกไม่สุด

milk of magnesia  ผมกินก่อนนอน มา 3 วันละ 

ส่วนก่อนหน้า นี้ Senokot มา 2ครั้ง 

ผมอยากถามว่า 

ถ้าผมกกิน Senokot  ติดต่อกัน 5วันจะดีไหมครับ  ร่วมกับ milk of magnesia mucilin
หรือควรเปลี่ยนตัวยาเป็น พวก  ไบโซแล็กซ์  ติดต่อกัน 5 วันดี 

ช่วงนี้  ผมกินน้ำเยอะ  กินผักเยอะแล้วนะครับ ใช้ยามานิดหน่อยแล้ว 

เลยคิดว่าควรใช้ติดต่อกัน 5 วันจะมีอัตรายไม่ไหม 
ขอบคุณครับ

อายุ: 30 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 63 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.05 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

2 พฤษภาคม 2557 03:49:40 #2

เรียน คุณ nappZ,

ตัวยาแต่ละตัวที่คุณสอบถามมานั้น ออกฤทธิ์แตกต่างกันไป

  • MOM. หรือ milk of magnesia เป็นยาถ่ายนะครับ ออกฤทธิ์กระตุ้นให้มีการหลั่งน้ำเข้ามาในทางเดินอาหาร และกระตุ้นให้ลำไส้มีการบีบตัวเพิ่มมากขึ้น
  • Senokot หรือ sennosides เป็นยาระบาย สารสกัดจากใบมะขามแขก มีฤทธิ์ระคายเคืองทางเดินอาหาร ทำให้มีการหลั่งน้ำเข้ามาในลำไส้เพิ่มขึ้น กระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวเพิ่มมากขึ้น
  • Mucillin เป็นสารสกัดจากเมล็ดแมงลัก มีการดูดน้ำเข้ามาหาตัวมัน ทำให้พองตัว เพิ่มเนื้ออุจจาระ
  • Bisolax เป็นส่วนผสมของ bisacodyl (กระตุ้นให้ลำไส้บีบตัวเพิ่มมากขึ้น) docusate sodium (ดึงน้ำเข้ามาในลำไส้) และ methylcellulose (พองตัวและเพิ่มเนื้ออุจจาระ)
  • ตัวนี้ห้ามรับประทานพร้อมนมหรือยาลดกรด เนื่องจากต้องการให้ bisacodyl ไปออกฤทธฺ์ที่ลำไส้ มิฉะนั้นตัวยาจะออกฤทธิ์ที่กระเพาะอาหารแทน กลายเป็นทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดมวนท้อง

ทั้งหมดต้องขึ้นกับประวัติส่วนบุคคลของคุณที่ปกติเป็นคนถ่ายอุจจาระบ่อยขนาดไหน เนื่องจากในบางคน 3 วันเข้าห้องน้ำทีมาตลอด แบบนี้ก็ไม่เรียกว่าท้องผูกสำหรับคนนั้น ๆ

แต่บางคนต้องเข้าห้องน้ำเช้าเย็น บางครั้ง 2 วันก็รู้สึกว่าท้องผูกแล้ว

  • ต้องรับประทานยาพร้อมกับการดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ อย่างน้อย 3 ลิตรต่อวัน ไม่นับรวมน้ำผลไม้ น้ำอัดลม ฯ โดยเฉพาะช่วงนี้อากาศร้อนมาก ต้องมีการชดเชยการสูญเสียน้ำทางเหงื่อด้วย โดยเฉพาะ การรับประทานยาระบายจำพวกเพิ่มกากใย หากดื่มน้ำน้อย จะกลายเป็นทำให้ท้องผูกแทน
  • รับประทานผักสดผลไม้ที่มีกากใยสูงร่วมด้วย เช่นฝรั่งสุก (ถ้าดิบหรือแข็งจะกลายเป็นยาห้ามถ่ายแทน เนื่องจากมีฤทธิ์ฝาดสมาน) มะละกอสุก กล้วยน้ำว้าสุก เปลี่ยนไปเรื่อย ๆนะครับ จะได้ไม่เบื่อ และลดการสะสมของสีผลไม้ด้วย ในบางรายรับประทานมะละกอสุกวันละลูก มือและผิวกลายเป็นสีส้มไปก็มี ผลไม้จำพวกที่อวบน้ำจะมีกากใยน้อย เช่น แตงโม แคนตาลูป ฯ
  • เลือกรับประทานอาหารที่ไม่ขัดสี เช่น whole wheat, ข้าวกล้อง
  • เลือกรับประทานผลไม้ มะขาม เพิ่ม ซึ่งมีฤทธฺ์เป็นยาระบายอ่อน ๆตามธรรมชาติ
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การนั่งทำงานนาน ๆก็มีส่วนทำให้ลำไส้ไม่มีการขยับตัว เป็นสาเหตุหนึ่งของภาวะท้องผูกได้

ไม่แนะนำให้รับประทานติดต่อกันโดยไม่มีความจำเป็นหรือยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์ เนื่องจากจะทำให้เกิดภาวะทนต่อยา คล้าย ๆเชื้อดื้อยา ทางเดินอาหารเมื่อถูกกระตุ้นมาก ๆหรือบ่อย ๆจะลด

ตัวรับสารเคมีนั้น ๆ ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณยาขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายกลายเป็นโรคลำไส้ขี้เกียจแทน เมื่อไม่มีการกระตุ้น ลำไส้จะไม่ทำงาน กลายเป็นโรคท้องผูกเรื้อรังแทน

หากรับประทานยา 1-2 วันแล้วยังไม่ถ่ายอุจจาระ อาจทดลองวิธีสวนทวารหนักแทน
สุดท้ายถ้าปฏิบัติตามที่แนะนำแล้ว ยังมีอาการอีก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ ว่ามีอะไรตกค้างหรืออุดตันในลำไส้หรือไม่

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล