เรียน คุณ warawee

จากข้อมูลแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางครับ เนื่องจากต้องมีการตรวจเพิ่มเติม เช่นความผิดปกติของฮอร์โมน หรือมีการติดเชื้ออื่นใดหรือไม่ ยารักษาสิวมีทั้งรับประทานและยาทาเฉพาะที่ ต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งจ่าย เนื่องจากต้องดูว่ามีข้อห้ามใช้ใด หรือไม่ เช่น โรคตับ โรคไต โรคหัวใจและหลอดเลือด ยาทาก็มีหลากหลายแบบ ทั้งชนิดที่เป็นยาปฏิชีวนะ (สำหรับสิวหนอง) ยาทาเร่งการผลัดผิว (สำหรับสิวอุดตัน) ยาทาเร่งการหลุดลอกของรูขุมขนอุดตัน (สำหรับสิวหัวขาว) ยาทาบางตัวต้องระวังเรื่องการทำให้สีเสื้อผ้าด่างขาว หรือทำให้ผิวบางจนเกิดอาการอักเสบ แดง ลอก เป็นรอยดำหรือฝ้าได้ง่าย

จากที่คุณให้ข้อมูลมายิ่งควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังทันทีครับ พบที่ใกล้บ้านหรือที่โรงพยาบาลของรัฐ เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายครับ แต่อย่างหนึ่งที่คุณทำได้ขณะนี้ คือการควบคุมน้ำหนัก โดยการควบคุมอาหาร ลดอาหารจำพวกแป้งขัดขาว น้ำตาล พบว่าจะยิ่งทำให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบครับ ควรรับประทานแป้งที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ปรับสัดส่วนอาหารให้เป็นผักสด ผลไม้ครึ่งนึง ส่วนแป้งประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ โปรตีนที่ย่อยง่าย ไขมันต่ำ 25 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออื่น ๆ ลดอาหารจำพวกหวานจัด เค็มจัด หวานทำให้อ้วน สิวอักเสบ เค็ม ทำให้ร่างกายบวมน้ำ ผิวพรรณฉุน้ำ ออกกำลังกายที่ไม่ลงน้ำหนักมากในช่วงแรกก่อน เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ การออกกำลังกายนอกจากทำให้ร่างการแข็งแรง ควบคุมน้ำหนัก ยังเร่งการขับเหงื่อและของเสียออกทางรูขุมขน พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่ควรนอนดึกเกิน 23.00 น. (ซึ่งเป็นช่วงที่สมองหลั่ง Growth Hormone เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ) หากนอนดึกหรือนอนน้อย ต่อมหมวกไต จะมีการหลั่งฮอร์โมนสเตียรอยด์ ยิ่งทำให้อ้วน กินจุ บวมน้ำ แผลหายยาก เซลล์สมองหดตัว ทำให้ความคิดไม่แจ่มใส

เป็นกำลังใจให้ครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล