กระดานสุขภาพ

เรื่องการติดเชื้อ Hiv
Anonymous

5 ตุลาคม 2561 08:25:47 #1

ดิฉันมีข้อสงสัยค่ะ ดิฉันเป็นหูดหงอนไก่ที่อวัยวะเพศรักษาหายเรียบร้อยแร่วค่ะ เพราะพึ่งไปตรวจภายในเมื่อสิ้นเดือนกันยา และดิฉันเป็นเริมที่ปากค้ะ ดิฉันรักษาด้วยการกินยาและทานยาค่ะ เริมพึ่งเป็นที่ริมฝีปากครั้งแรกค่ะ ไม่ทรสบว่าติดมาจากไหนค่ะเพราะแฟนไม่ได้เป็นค่ะ พอดีดิฉันสงสัยค่ะดิฉันอาในกูลเกิลมาเค้าบอกว่าเป็นเริมสามารถติดเชื้อhivได้ด้วยค่ะ การเป็นเริมแร่วต้องติดเชื้อhivด้วยรึป่าวค้ะ ดิฉันเคยตรวจมาแร่วเมื่อต้นปีค่ะผลการตรวจเชื้อhivปกติค่ะ
อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 48 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.61 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

5 ตุลาคม 2561 08:26:44 #2

เพิ่มเติมค่ะดิฉันคบกับแฟนมาปีกว่าแร่วค่ะก่อนคบดิฉันก่อตรวจค่ะผลปกติค่ะ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

5 ตุลาคม 2561 13:47:44 #3

สำหรับการติดต่อของโรคเอดส์ 1. มีการร่วมเพศโดยไม่ใช้ถุงยางกับคนที่ติดเชื้อเอดส์ 2. ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับคนที่ติดเชื้อเอดส์ 3. ได้รับเลือดบริจาคที่มีเชื้อเอดส์ และ 4 ติดเชื้อจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์ขณะตั้งครรภ์ ในกรณีของคุณที่เคยตรวจแล้วผลเป็นลบ และแฟนคุณถ้าผลเลือดเป็นลบด้วย และทั้งตัวคุณและแฟนต่างก็ไม่มีความเสี่ยงคือไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ก็ถือว่าไม่มีความเสี่ยง แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความเสี่ยง เช่น แอบมีคู่นอนหลายคนและไม่ใช้ถุงยาง ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อและแพร่ให้คู่นอนได้ สามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ส่วนเรื่องแผลเริมนั้น เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 3-7 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง สำหรับเรื่องการติดต่อนั้นโดยทั่วไปแล้ว จะติดต่อกันได้ง่ายขณะที่มีรอยโรค เช่น ตุ่มน้ำ หรือขณะที่มีแผล อย่างไรก็ตามมีการศึกษาที่ประเทศอเมริกาพบว่า อาจพบเชื้อไวรัสจากสารคัดหลั่งหรือเมือกบริเวณอวัยวะเพศได้แม้ไม่มีอาการแสดงของตุ่มน้ำหรือแผล เป็นไปได้ว่าอาจมีแผลที่ปากมดลูก หรือในช่องคลอดหรือในท่อปัสสาวะซึ่งไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากภายนอก โดยพบประมาณ 10% ของจำนวนวัน คือใน 1 ปีอาจพบได้ 36 วัน ในขณะที่ถ้ามีรอยแผลจะพบ 21% คือ 77 วัน เพราะฉะนั้น โอกาสที่จะติดเชื้อเริมจากคนที่เคยเป็นเริมมาก่อนก็เป็นไปได้แต่จะน้อยกว่าการติดเชื้อขณะที่มีตุ่มน้ำหรือแผล ส่วนเรื่องแผลเริมที่ปาก ถ้าไม่ได้มีการสัมผัส ก็ไม่ติด แต่ถ้ามีการทำออรัลเซ็กส์ก็อาจจะติดเชื้อได้ เชื้อเริมกับเชื้อเอดส์เป็นไวรัสคนละตถ้าเป็นเริม ไม่ได้หมายความว่าจะต้องติดเชื้อเอชไอวี แต่มีการศึกษาพบว่าคนที่เป็นเริมจะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าคนที่ไม่เป็นเริม ประมาณ 2-8 เท่า โดยสรุป เริมกับเชื้อเอชไอวีเป็นคนละตัว แต่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นเดียวกัน คนที่เป็นเริมจึงมีความเสี่ยงสูงกว่าคนที่ไม่เป็นเริม