การช่วยตัวเองถือเป็นเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ไม่มีโอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ ถ้าการช่วยตัวเองที่ไม่บ่อย เช่นอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง จากการศึกษาไม่พบว่ามีผลเสียต่อสุขภาพหรือเรื่องสมรรถภาพทางเพศ ในบางรายที่มีการช่วยตัวเองที่บ่อย เช่น วันละหลายครั้งหรือทุกวัน และทำติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็อาจมีผลทางด้านจิตใจ เป็นคนเสพติดการช่วยตัวเอง เวลามีการร่วมเพศจริงๆกับผู้หญิง อาจจะเกิดภาวะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือการหลั่งเร็วหรือหลั่งก่อนการสอดใส่ก็ได้ นอกจากนี้ถ้าถ้ามีการช่วยตัวเองที่บ่อยเกินไป และรุนแรง นานเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบของท่อปัสสาวะและเนื้อเยื่อรอบๆอวัยวะเพศ เกิดอาการปัสสาวะบ่อย ปวดท้องน้อยและหน่วงที่ลูกอัณฑะ หรือในกรณีของคุณที่หลังช่วยตัวเองจะเป็นแผลและหนังแห้งแตก อาจจะเกิดจากการที่หนังหุ้มแพ้หรือระคายเคืองสารที่ใช้ เช่นสบ่ น้ำยาต่างๆร่วมกับความอับชื้น ทำให้มีเชื้อราด้วย และอาจจะมีปัญหาร่วมด้วยคือการที่หนังหุ้มปลายยาวและรูดเปิดได้ไม่สุดหรือมีการรัดเวาลอวัยวะเพศแข็งตัว เมื่อมีการช่วยตัวเองจึงทำให้เป็นแผลได้ง่าย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน และเนื่องจากคุณมีอายุ 48 ปี อาจจะต้องเรื่องเบาหวาน เพราะถ้าเป็นเบาหวานก็อาจจะทำให้เป็นเชื้อราได้ง่ายซึ่งเป็นสาเหตุทีทำให้เป้นแผลเปื่อยได้ ในกรณีที่เป้นบ่อยการขลิบหนังหุ้มปลายอาจจะช่วยได้ การขลิบหนังหุ้มปลายถือเป็นการผ่าตัดธรรมดา มีการฉีดยาชาเฉพาะที่ ใช้เวลา 1 ชม. แผลจะหายใน 2-4 อาทิตย์ ผลดีของการขลิบคือทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นแผลเวลาร่วมเพศ มีการศึกษาที่หลายประเทศในทวีปแอฟริกาพบว่าช่วยลดการติดเชื้อเอดส์ได้ประมาณ 40% แต่ยังไมมีการศึกษาในประเทศไทย โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของแผลและหนังหุ้มอวัยวะเพศ แนะนำหาหมอครับ

ขอบพระคุณมากครับ คุณหมออนุพงศ์

คือว่า ผมก็เป็นโรคเบาหวานอยู่ด้วยครับ และคุณหมอก็ให้ยาแบบขับน้ำตาลออกมาทางปัสสวะ มาทานด้วยครับ

ก็เลยฉี่บ่อยมากๆ