คุณมีประจำเดือนไปเมื่อ 5 ธันวาคม และหมดไปนานแล้ว อาการคัดตึงเต้านมจึงไม่น่าจะเกี่ยวกับรอบเดือน ส่วนน้ำมะพร้าวไม่ทำให้เกิดอาการคัดตึงเต้านม ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจเต้านมด้วย นอกจากนี้ ควรจะตรวจคัดกรองด้วยการทำแมมโมแกรม เพราะจะช่วยคัดกรองในเรื่องก้อนผิดปกติที่เต้านมได้ดี และอายุ 44 ปี ก็เป็นวัยที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมเช่นกัน จึงควรได้รับการตรวจคัดกรองด้วยแมมโมแกรมเป็นประจำทุกปีค่ะ การตรวจควรตรวจในช่วงหลังหมดประจำเดือนเพราะจะทำให้การตรวจง่ายขึ้น และไม่เจ็บมาก คุณสามารถไปพบแพทย์ได้ตลอดเวลาถ้ารู้สึกว่ามีอาการผิดปกติค่ะ

พรุ่งนี้จะไปหาหมอตามที่คุณหมอแนะนำค่ะ แต่ขอเพิ่มเติมอาการ คือ เมื่อกดใต้รักแร้ตรงกลาง โดยกดลึก ๆ จะรู้สึกเจ็บเป็นทั้ง2ข้างเลยค่ะ  จะเกี่ยวกับต่อมน้ำเหลือง หรือเป็นสัญญาณของโรคอะไรหรือไม่คะ รบกวนช่วยตอบด้วยค่ะ  แต่พรุ่งนี้จะบอกอาการหมอที่ตรวจอีกทีค่ะ

อาจจะเป็นต่อมน้ำเหลืองที่มีการอักเสบร่วมด้วยได้ค่ะ

ไปหาหมอ หมอบอกว่าถ้าไม่คลำเจอก้อนที่เต้านมก็ไม่ใช่มะเร็ง  เลยให้หาแก้อักเสบคือ Roxithromycin มาทานเช้าเย็น 10 วัน  และให้วิตามินซี100mg มาทานด้วย   ถ้าไม่หายค่อยไปหาหมออีกครั้งค่ะ   ทานไปวันที่ 3 แล้วยังอาการเหมือนเดิมอยู่ 

ถ้าทานยาแก้อักเสบครบแล้ว ยังเจ็บใต้รักแร้อยู่ (เจ็บด้านซ้ายมากกว่า) จะเสี่ยงกับการเป็นโรคอะไรได้บ้างคะ ควรไปตรวจเมมโมแกรมหรือไม่ เพราะคลำไม่เจอก้อนที่เต้านม

การคลำด้วยมือจะมีความแม่นยำน้อยกว่าการตรวจด้วยแมมโมแกรม เพราะสามารถพบก้อนที่มีความผิดปกติขนาดเล็กๆ ได้ ถ้าไม่สบายใจหรือไม่แน่ใจว่าจะมีความผิดปกติที่เต้านมหรือไ่ม่ ทางที่ดีควรไปพบแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมเต้านมและทรวงอกเลย เพื่อรับการตรวจที่ถูกวิธีและคำแนะนำที่ถูกต้องต่อไป เพราะคุณอายุ 44 ปี จัดเป็นสตรีที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดความผิดปกติที่เต้านมได้ค่ะ