กระดานสุขภาพ

คันที่อวัยวะเพศชายครับ
Anonymous

14 ธันวาคม 2556 01:59:48 #1

สวัสดีครับคุณหมอ ผมมีเรื่องกลุ้มใจมาปรึกษาครับ ที่อวัยวะเพศของผมมีอาการค่อนข้างแปลกครับ 

เคยเป็นอาการแบบนี้มาหลายครั้งแล้วครับ บางทีก็หายไปเองบ้างครับ แต่ครั้งนี้เป็นค่อนข้างเยอะและ

ค่อนข้างคันมากครับ ตุ่มใหญ่ขึ้น บางอันไม่เป็นตุ่มแต่จะเป็นลักษณะไม่แห้งครับ 

 

ตอนนี้ผมค่อนข้างเครียดมากเลยครับ ยังไงขอคำแนะนำนะครับ 

 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/705a9-8977-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/705a9-8977-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/705a9-8977-3.jpg

อายุ: 29 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 85 กก. ส่วนสูง: 183ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.38 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

14 ธันวาคม 2556 10:47:48 #2

เรียน คุณ 705a9

สามารถส่งรูปมาที่ได้ที่ info@haamor.com คะ

Anonymous

14 ธันวาคม 2556 12:48:37 #3

ขออภัยนะครับถ้ารูปที่ส่งมามันน่าเกลียด

ตอนนี้พอผมบีบเบาๆที่แผลเปียก มันค่อนข้างแข็งครับ ค่อนค้างคันมากๆครับ แต่ตุ่มๆมันไม่คันมากครับ แต่ตุ่มใหญ่ ผมมีอาการตุ่มแบบนี้มา5-6รอบในรอบ2ปีครับ แต่ครั้งนี้เป็นค่อนข้างหนักหน่อยครับ คือ คัน ตุ่มใหญ่ เป็นนาน ครั้งนี้เป็นมา2อาทิตย์กว่าๆแล้วครับ

ผมต้องกราบขอบพระคุณมากๆนะครับที่ช่วยตอบปัญหาให้ผม

ช่วยแนะนำเรื่องอาหารการกินด้วยนะครับว่าต้องเปลี่ยนยังไงด้วยนะครับถัามันเกี่ยวข้องครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

15 ธันวาคม 2556 13:51:04 #4

ดูจากแผลและประวัติว่าเป็นๆหายๆ น่าจะเป็นเริม ซึ่งถ้ามีประวัติเสี่ยงเช่น มีคู่นอนมากกว่า 1 คนหรือ มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงหรือ คู่นอนมีพฤติกรรมเสี่ยงก็ช่วยสนับสนุนว่าเป็นเริม โดยการเป็นครั้งแรก จะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ

เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม
ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเองได้

แต่ถ้าไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง อาจเกิดจากการแพ้ หรือระคายเคือง ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังครับ

Anonymous

16 ธันวาคม 2556 14:13:16 #5

ขอบคุณมากครับคุณหมอ 

สอบถามเพิ่มเติมครับ ยาที่แจ้งมากน่ะครับ ไม่ควรทานติดต่อกันนานเกินกี่วันมั้ยครับ

แล้วถ้าทานต้องนานแค่ไหนกว่าอาการจะทุเลาลงบ้างอ่ะครับ แล้วผมควรต้องหลีกเลี่ยงอะไรบ้างมั้ยครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

18 ธันวาคม 2556 06:01:07 #6

ยา acyclovir ให้กินประมาณ 7-10 วัน เมื่อแผลแห้งหรือหายก็เลิกกินได้ ส่วนเรื่องที่ต้องระวังคือให้สังเกตุว่ามีปัจจัยอะไรที่ทำให้เป็นซ้ำ เช่น การดื่มเหล้า การมีเพศสัมพันธ์ เพื่อจะได้ลดการเป็นซ้ำ และที่สำคัญคือ เมื่อเริ่มมีตุ่มหรือแผลให้งดการร่วมเพศหรือต้องใช้ถุงยางเพื่อป้องกันไม่ให้คู่นอนติดเชื้อ

 

นพ. อนุพงศ์