กระดานสุขภาพ

ถามเรื่องซิฟิลิสครับ
Anonymous

8 ธันวาคม 2556 23:05:26 #1

สวัสดีครับคุณหมอ ผมเคยติดเชื้อซิฟิลิส ตอนอายุ17ครับ ปัจจุบัน 42 ตอนนั้นรับการรักษาโดยทานยาติดต่อกันนานสามเดือน หลังจากนั้นตรวจเลือด ผลบวกลดลงหมอที่รักษาแจ้งว่าหายแล้วให้มาครวจอีกครั้งหลังจากสามเดือน ช่วงนั้นผมกำลังย้ายมาเรียนมหาลัยในกรุงเทพ เลยไม่ได้ไปตรวจเลือดตามนัด ปล่อยไปประมาณสองปีแล้วจึงไปตรวจ ผลออกมาไม่มีผลบวกครับ ก็ใช้ชีวืตปกติไม่ได้ไปกังวลอะไร ป้องกันทุกครั้งที่เสี่ยง ไม่ยอมให้พลาดเหมือนตอนเด็กๆอีกแล้ว ปล่อยมาสิบกว่าปี จนอายุ35ก่อนจะแต่งงานก็ไปตรวจเลือดอีกครั้งที่โรงพยาบาลเอกชน โดยเล่าประวัติให้ทางคุณหมอทราบ หมอตรวจเลือดให้สองขั้นตอน มีขั้นแรกและ ยืนยันผลอีกครั้ง ผลออกมาปกติทั้งสองครั้ง คุณหมอแจ้งว่าปกติหายแล้ว หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้มีอาการผิดปกติอะไร ร่างกายแข็งแรงดี จนเมื่อกลางเดือนที่แล้ว ภรรยาผมมีผื่นขึ้นที่มือ ลักษณะเหมือนออกดอก ทำเอาผมประสาทเสีย กลัวว่าเรายังไม่หายไปแพร่เชื้อให้ภรรยา เลยไปตรวจเลือดอีกครั้งที่แล็บเอกชน ผลvdrl non-reactive ตรวจยืนยันอีกครั้งเรียกว่าอะไรจำไม่ได้ครับผลออกมา nonเช่นกัน จากที่เล่ามาผมขอเรียนถามคุณหมอดังนี้ครับ

1.ผมแน่ใจได้หรือยังครับว่าหายจากโรคนี้แล้ว

2.ถ้ายังไม่แน่ผมครวจตรวจด้วยวิธีการใดอีก หรือมีแนวทางปฎิบัติใดบ้างรบกวนแนะนำผมหน่อยครับ

ขอบคุณคุณหมอมากครับ

อายุ: 42 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.71 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

9 ธันวาคม 2556 05:02:37 #2

โรคซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป แบ่งเป็น 1.แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คัน ผมร่วงเป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่มีอาการ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม) หรืออาจกินยา doxycycline 100 มิลลิกรัม เช้าเย็น เป็นเวลา 4 อาทิตย์ สำหรับการติดตามผลการรักษา ใช้การตรวจ VDRL หรือ RPR มีข้อบ่งชี้ว่าต้องรักษาซ้ำ เมื่อค่า VDRL หรือ RPR เพิ่มขึ้นจากก่อนรักษาหรือในการติดตามผลในการตรวจครั้งต่อๆมามากกว่า 4 เท่า หรือเมื่อครบ 1ปี ยังมีค่ามากกว่า 1:8 ในกรณีของคุณที่ผลการตรวจ VDRL เป็นลบ (non reactive) ก็แน่ใจได้ว่าหายจากโรคนี้แล้ว

ส่วนการตรวจเลือดเพื่อยืนยันผล สามารถตรวจโดยวิธี TPHA หรือ FTA -ABS แต่การตรวจทั้ง 2 อย่างอาจจะยังให้ผลบวกถึงแม้จะรักษาแล้ว การตรวจทั้ง 2 อย่างนี้จึงใช้เพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคก่อนการรักษาเท่านั้น เรื่องภรรยาที่มีผื่นที่มืออาจมีสาเหตุจากโรคผิวหนัง แนะนำหาหมอผิวหนังครับ

 

นพ. อนุพงศ์

Anonymous

9 ธันวาคม 2556 11:03:15 #3

ขอบคุณคุณหมอมากครับ จะได้สบายใจซะที