กระดานสุขภาพ
| ปรึกษาที่บริเวณผิวหนังอัณฑะ คันและมีตุ่มแดงเกินขึ้น | |
|---|---|
|
18 พฤศจิกายน 2556 17:45:50 #1 อยากปรึกษานิดนึงครับ เนื่องจากปกติผมมีอาการคันที่อัณฑะ ซึ่งเคยไปหาหมอ หมอวินิจฉัยว่าเป็นภูมิแพ้ผิวหนังครับ หลังจากนั้นก็ได้มีทางยาแก้แพ้บ้าง ทาอริสโตคอร์ทบ้างเวลาคัน หลังๆพบว่ามีตุ่มแดงขึ้นด้วยครับ (รูปตาม link ด้านล่างครับ) แรกๆไม่ได้จะอะไรบางครั้งก็คัน บางครั้งก็ไม่คัน แต่หลังๆนี่คันเรื่อยๆครับ แถมมีตุ่มแดงมันเป็นแนวอีก ตอนแรกคิดว่าเป็นหูด หรือเริมหรือเปล่า แต่เท่าที่ค้นมาเนี่ยก็ดูอาการไม่ตรงครับ เพราะว่าคันอย่างเดียว เป็นๆยุบๆไม่ขึ้นตลอด ไม่เป็นตุ่มน้ำใส ไม่มีตุ่มแตกเป็นแผล หรืออาการไข้ครับ ผมเลยไม่ทราบว่ากรณีนี้ ยังเป็นอาการผิวหนังอักเสบหรือเปล่าครับ หรือว่าอาการแบบนี้ควรพบแพทย์แล้วครับ ถ้าหากไม่มีเป็นอะไรร้ายแรง รบกวนแนะนำวิธีการดูแลด้วยนะครับ ขอขอบคุณคุณหมอที่สละเวลาเอามาอ่านและตอบล่วงหน้าด้วยนะครับ ขออนุญาตใส่ link รูปอาการแทนที่จะแนบรูปนะครับ ภาพอาจจะไม่น่าดูเท่าไหร่ เผื่อคนกดเข้ามาจะได้ไม่ต้องดูอะไรไม่ดีครับ http://haamor.com/media/images/webboardpics/56f40-8501-1.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/56f40-8501-2.jpg |
|
| อายุ: 29 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 80 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.12 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
19 พฤศจิกายน 2556 13:37:15 #2 ดูจากรูป น่าจะเป็นโรคผิวหนังที่เกี่ยวกับการแพ้หรือระคายเคืองชนิดเรื้อรัง จะเป็นๆหายๆ การเกา การแกะ การถู จะทำให้เป็นมากขึ้น เมื่อได้ยากินแก้แพ้ แก้คัน ร่วมกับยาทา ก็จะหาย แต่ถ้าไปสัมผัสกับสิ่งที่เคยแพ้ หรือแค่รู้สึกคันๆ แล้วเผลอไปเกา หรือถู ก็จะบวมแดง ยิ่งเกาก็จะยิ่งคัน ต้องหาสาเหตุว่าแพ้หรือระคายเคืองอะไร แล้วหลีกเลี่ยง เช่น สบู่ยา สบู่หอม ครีมอาบน้ำ กางเกงชั้นในที่ทำจากสารสังเคราะห์หรือรัดรูปมาก ต้องสังเกตูหาสาเหตุแล้วหลีกเลี่ยง ที่สำคัญพอเริ่มคัน รีบกินยาทายา จะช่วยให้หายเร็วขึน ส่วนยาทาก็ใช้ยาแก้แพ้ที่ออกฤทธิ์ปานกลางถึงแรง เพราะผิวบริเวณนี้หนาและเป็นเรื้อรัง ถ้ายาออกฤทธิ์อ่อน ก็จะหายช้า แนะนำว่าถ้าไม่แน่ใจให้หาหมอผิวหนังครับ |
Frog*****y |
15 กุมภาพันธ์ 2557 15:42:45 #3 รบกวนคุณหมอบอกชื่อยาทากับยากินได้ไหมครับ ขอบคุณครับ |
Anonymous