ถึง คุณ 59b59

รบกวนโพสรูปภาพใหม่อีกครั้งนะคะ เนื่องจากไม่สามารถดูรูปได้คะ

นี่ครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/59b59-7843-4.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/59b59-7843-5.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/59b59-7843-6.jpg

จากประวัติมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยาง ซึ่งบริเวณที่เป็นคือที่โคนอวัยวะเพศและบริเวณหัวเหน่า จึงเป็นไปได้ว่าอาจมีการติดเชื้อเพราะถุงยางคลุมไม่ถึง เท่าที่ดูจากรูปเห็นเป็นตุ่มหนองและมีบางตุ่มแตกเป็นแผลตื้นๆ ลักษณะคล้ายกับแผลเริม

เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจาการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม (ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเองได้ ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหหามอโรคผิวหนังครับ

นพ. อนุพงศ์

ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยแนะนำ อีกอย่างนึงที่ผมสงสัย

ตอนที่เป็น อาการแบบนี้ จะส่งผลให้ มีอาการเจ็บ แปล้บ ๆ บริเวณ รอบ ๆ เอว ลามไปถึงช่วงหว่างขาด้วยใช่หรือป่าวครับ

เพราะตอนนี้ ผมมีอาการประมาณนี้อยู่ สังเกต ไม่ได้มีรอบช้ำอะไรแต่อย่างได้ แต่พอใส่กางเกง หรือไปโดน จะมีอาการเจ็บ แปล้บ ๆ ทำให้เดิน หรือ ถอดกางเกงลำบาก

นี่เป็นผลของ อาการอักเสบ หรือเริม ใช่หรือป่าวครับ

แล้วพอจะมีวิธี ทำให้อาการมัน ดีขึ้นหรือป่าว หรือว่า มันจะหายไปพร้อมกับเริม เองครับ

ถูกแล้วครับ อาการเจ็บๆที่รอบเอวและต้นขาเป็นอาการที่เกี่ยวข้องกับการเป็นเริม เนื่องจากมีการการอักเสบของปมประสาทและเส้นประสาทที่บริเวณผิวหนังที่เป็นแผลได้ อาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปพร้อกับแผลเริม และในการเป็นซ้ำครั้งต่อไปก็อาจมีอาการเสียวๆเกิดขึ้นได้

นพ. อนุพงศ์