โดยปกติแล้ว ในแรกๆของการมีประจำเดือน 4-5 ปีแรก การทำงานของสมอง รังไข่ มดลูก ที่ยังประสานกันไม่ดี อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบ ไม่สม่ำเสมอได้ ครับ โดยปกติแล้วมักจะเป็นปกติได้เองหลังจากนั้น ในบางคนได้ทานยาคุมกำเนิด ก็จะช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบได้ แต่หากทานในอายุที่น้อยๆอยู่ จะทำให้ความสูงเพื่ิมขึ้นไม่มากเท่าที่ควรหรือหยุดสูงได้ครับ

แต่มาช่วงนี้ในช่วงอายุที่ประจำเดือนควรจะมาปกติ เป็นรอบดีแล้ว และมีประวัติทานยาคุมกำเนิดแล้วประจำเดือนไม่มา ขาดไป 2 เดือน นั้น ถือว่า ผิดปกตินะครับ เพราะหากทานถูกต้อง ควรจะมีประจำเดือนมาทุกๆเดือน แต่หากช่วงนี้ ไม่ได้ทานแล้ว ประจำเดือนมากะปริดกะปรอย มีอาการต่างๆมากมาย ซึ่งหมอคาดว่า อาการต่างๆนี้ เป็นอาการของการที่ไ่ม่มีการตกไข่ ซึีงปัจจัยต่างๆที่มีผล อาทิเช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนดึก นอนน้อย น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง (polycystic ovarian syndrome) ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยาสตรี ยาขับเลือด ยาสมุนไพร ต่างๆ เป็นต้นครับ

ซึี่งเมื่อไม่่มีการตกไข่ เยื่อบุประจำเดือนก็จะหนาตัวขึ้น ในช่วงนี้ ประจำเดือนก็จะไม่มา แต่เมื่อเยื่อบุนี้หนามาก ทำให้มีการหลุดลอกตัวออกมา ทำให้เลือดที่ออกมามีลักษณะกะปริดกะปรอยครับ ซึ่งเรียกเลือดที่ออกมาในลักษณะนี้ว่า DUB หรือ dysfunctional uterine bleeding ครับ หรือ ภาวะเลือดที่ออกผิดปกติจากการไม่ตกไข่ครับ

ดังนั้น หมอคิดว่า หากลักษณะประจำเดือนแบบนี้ รบกวนชีวิตประจำวัน หรือ กังวลมาก หมอแนะนำให้มาพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆ ก่อนจะสรุปว่า เป็นภาวะที่หมอกล่าวไป ซึ่งหากไม่พบสาเหตุอื่น ก็ควรได้รับยาเพื่อปรับรอบประจำเดือนครับ