กระดานสุขภาพ

vasvulitis ที่แขนและขา
Anonymous

11 พฤษภาคม 2556 13:56:23 #1

เริ่มมีvasculitisที่ขาขวาเหนือเข่าเป็นจุดนูนแดงขนาดประมาณ 1 cm. ปวดและร้อนบริเวณที่เป็น   ได้ตรวจเลือด

ESR=15mm/h , LE  cell   =  Negative ,  ANA = Negative,C3 Complement= 947 ug/ml

แพทย์ให้ทา steroid cream  ผื่นยุบลงกลายเป็นสีคล้ำภายใน5วัน  แต่มีจุดใหม่ขึ้นที่เข่าขวา    แขนและข้อมือซ้ายอีก     ปวดตามข้อใหญ่  และนิ้วมือจะปวดตึง ไม่บวม

ทายาเดิมก็ดีขึ้น  แพทย์ไม่สรุปว่าเกิดจากอะไร

หมายเหตุ  เคยมีอาการเมื่อ  10 ปี ก่อนที่ฝ่ามือผล Biopsyเป็น Vasculitis

              โรคประจำตัว Thalassemia Hb H ทานยา Folic  acid วันละเม็ด และเป็น G6PDและWBC ต่ำ(2,800-3,200)ลดลงทุกปี       :::  แพ้ยากลุ่มNSAIDและยาแก้ปวดกระดูก-กล้ามเนื้อทุกชนิด

อายุ: 52 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 154ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.61 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ศ. พญ. อรุณี เจตศรีสุภาพ

(แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์และโลหิตวิทยา)

13 พฤษภาคม 2556 07:44:28 #2

การที่พบ vasculitis คือมีการอักเสบของหลอดเลือด ลักษณะเป็นผื่นนูนแดงที่ผิวหนัง แพทย์คงต้องหาว่าเป็นโรค SLE หรือไม่โดยเฉพาะในผู้หญิงพบบ่อยกว่าผู้ชาย เพราะดูจากที่แพทย์ให้ตรวจทางแล็บ แต่ดูแล้วผลแล็บยังไม่เข้ากับ SLE แต่บางครั้งการวินิจฉัย SLE ก็จะค่อนข้างยากตรงที่มีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่อาการเหมือน SLE แต่ criteria หรือเกณฑ์ในการวินิจฉัยไม่ครบ

หมอติดใจสงสัยว่าทำไมคุณมีเม็ดเลือดขาวค่อนข้างต่ำซึ่งใน SLE มีเม็ดเลือดขาวต่ำได้
เนื่องจากคุณเป็นโรคธาลัสซีเมีย ในคนที่เป็นโรคธาลัสซีเมียที่จะมีเม็ดเลือดขาวต่ำคือ

1. กรณีที่มีม้ามโตมากและม้ามทำหน้าที่มากเรียกว่าภาวะ Hypersplenism ซึ่งม้ามจะทำลายทั้งเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือดทำให้เม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ ใน SLEเม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำและโลหิตจางก็ได้เช่นกัน

เนื่องจากคุณเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิด Hb H โดยปกติอาการค่อนข้างน้อย คือตับม้ามไม่โตมาก ไม่ซีดมาก (แต่หากเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิด Hb H with Hb Constant Spring อาจมี ซีดมากและตับม้ามโตมากได้) ดูจากยาที่แพทย์ให้คือมีแต่ Folic acid ไม่มี

2. ยาขับธาตุเหล็กชนิด deferiprone(L1) ทำให้เม็ดเลือดขาวต่ำ ในผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียที่มีภาวะธาตุเหล็กเกินแพทย์จะให้ยาขับธาตุเหล็ก แต่ดูจากยาที่แพทย์ให้คุณมีแต่ Folic acid ไม่มียาขับธาตุเหล็กดังกล่าวจึงไม่น่ามีปัญหาจากยา

โดยสรุปโรคธาลัสซีเมียที่คุณเป็นและการรักษาไม่น่าทำให้เม็ดเลือดขาวต่ำ อย่างไรก็ตามเม็ดเลือดขาวของคุณไม่ได้ต่ำมากจนน่าวิตก ตกลงหมอคิดว่าคุณเป็นอะไร เนื่องจากคุณเล่าว่าคุณเคยมีอาการเมื่อ 10 ปี ก่อนที่ฝ่ามือผลตัดชิ้นเนื้อ (biopsy) เป็น vasculitis หมอนึกถึงโรคอีกโรคหนึ่งชื่อ Henoch–Schönlein purpura เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็ก พบน้อยในผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่จะมีทางผิวหนังที่เรียก palpable purpura แบบที่คุณเป็นได้ แต่ที่พบบ่อยคือ purpura มักเป็นที่ขา สะโพก แต่พบที่อื่นเช่นที่หน้า ท้อง หรือแขนก็ได้เพราะโรคนี้เป็น systemic vasculitis คือมีการอักเสบของหลอดเลือดฝอยทั่วไป

อาการอื่นที่มักพบร่วมด้วยคือปวดข้อ ปวดท้องและอาจมีปัญหาที่ไตร่วมด้วย โรคนี้กลับเป็นได้อีก 1ใน 3 ของผู้ป่วย เวลาที่มีการอักเสบเม็ดเลือดขาวมักขึ้น แต่โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน(Immune) อาจพบรายงานเม็ดเลือดขาวต่ำได้เช่น ในโรคไตที่เป็น IgA nephropathy ที่มีหรือไม่มี Henoch–Schönlein purpura ร่วมด้วย พบรายงานว่ามีเม็ดเลือดขาวต่ำร่วมด้วย (Henoch–Schönlein purpura มี vasculitis ที่มี IgAเป็นส่วนประกอบ)

Henoch–Schönlein purpura เป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิด อาจถูกกระตุ้นให้เกิดหลังมีการติดเชื้อ การรักษา ไม่มีการรักษาเฉพาะ เว้นแต่รักษาตามอาการ ควรต้องติดตามดูเรืองความผิดปกติที่ไต หมอขอแนะนำให้คุณคุยกับแพทย์ผู้ตรวจรักษาซึ่งท่านคงซักประวัติและตรวจร่างกายคุณอย่างละเอียด ท่านคงมีมุมมองได้ดีกว่าหมอซึ่งได้ข้อมูลเพียงบางส่วน ขอขอบคุณสำหรับคำถามที่น่าสนใจและขออวยพรให้คุณไม่เป็นอะไรร้ายแรง

 

ศ.พญ.อรุณี เจตศรีสุภาพ