กระดานสุขภาพ

การรักษาหูดหงอนไก่
Anonymous

23 เมษายน 2556 14:57:06 #1

เรียนคุณหมอที่เคารพ

 

ผมอยากปรึกษาเรื่องโรคหูดหงอนไ่ก่ (ของผมขึ้นบริเวณรูทวารหนักแต่ไม่ขึ้นตรงวัยวะเพศ) ดังภาพ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/0b060-4782.jpg

คุณหมอครับ ลักษณะนี้ ทายาอย่างเดียวจะหายไหมครับ และถ้าใช้การจี้หูดเนี่ย ทำครั้งเดียวจี้ออกเลยไหมครับ

อยากทราบว่าการเตรียมตัวก่อนจี้หูดควรทำอย่างไรครับ และที่สำคัญมากคือ ฉีดยาชาหรือยาสลบก่อนจี้ไหมครับ

(คือผมอายมาก) อย่างไรคุณหมอช่วยแนะนำวิธีการดูแลรักษาให้ผมด้วยนะครับ

 

ลักษณะคือไม่เจ็บเหมือนติ่งธรรมดา ขับถ่ายปกติ แต่ผมรำคานครับเหมือนเนื้องอกออกมา ขอบพระคุณคุณหมอครับ

อายุ: 26 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 175 กก. ส่วนสูง: 66ซม. ดัชนีมวลกาย : 401.74 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

24 เมษายน 2556 07:23:03 #2

ขอบคุณที่ส่งรูปมาด้วย การที่มีหูดหงอนไก่ที่บริเวณรอบทวารหนักแสดงว่าคงมีเพศสัมพันธ์โดยการสอดใส่ทางทวารหนัก ซึ่งถือว่ามีโอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อและโรคเอดส์ แนะนำว่าควรตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอชไอวีและ ซิฟิลิส สามารถใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาทหรือบัตรประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย สำหรับหูดหงอนไก้ ก็ใช้วิธีรักษาเช่นเดียวกับที่เป็นบริเวณอวัยวะเพศ คือใช้ podophyllin ทาทุก 7 วัน เมือครบ 4-8 อาทิตย์ ยังไม่หาย ต้องใช้วิธีอื่น เช่น เลเซอร์ จี้ด้วยไฟฟ้า เป็นต้น สาเหตุที่หูดทวารหนักหายยากว่า เพราะอาจมีหูดอยู่ลึกเข้าไปในส่วนปลายของลำไส้ใหญ่ ต้องใช้เครื่องมือส่องเข้าไปและจี้ด้วยยาหรือเลเซอร์หรือจี้ด้วยไฟฟ้า ซึ่งต้องมีการฉีดยาชาเฉพาะที่ แต่ไม่ต้องถึงกับดมยาสลบ และอย่าลืมเมื่อหายดีแล้ว ต้องใช้ถุงยางทุกครั้งที่มีการร่าวมเพศเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำและป้องกันโรคอื่นๆรวมทั้งโรคเอดส์

 

นพ. อนุพงศ์

Anonymous

24 เมษายน 2556 16:24:29 #3

ขอบพระคุณคุณหมอสำหรับคำแนะนำครับ แต่จากรูปนี่ไปหาหมอเบื้องต้นหมอจะให้ยามาทาก่อนใช่ไหมครับ?

 

แล้วจากรูป มีโอกาสหายจากการทายาเลยไหมครับ 4-8 สัปดาห์ เพราะเท่าที่ผมรู้สึกได้ มันไม่น่าจะขึ้นข้างในครับ

 

ถ้าขึ้นข้างในผมว่าการรักษาน่าจะลำบากกว่านี้แน่นอน ขอบพระคุณคุณหมออีกครั้งครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

25 เมษายน 2556 04:35:28 #4

โดยปกติถ้าไม่ใหญ่มากอย่างในรูปก็เริ่มด้วยการใช้ยา podophyllin แต่ถ้ามีข้างในอาจต้องใช้เลเซอร์หรือจี้ไฟฟ้าครับ

 

นพ. อนุพงศ์