กระดานสุขภาพ

ขอสอบถามครับ รูขุมอักเสบเป็นผื่นๆ บริเวณอวัยวะเพศ
Chea*****1

23 เมษายน 2556 13:45:16 #1

 

- ผมเป็นคนรักษาความสะอาด ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ก่อนหน้านี้เป็นปี
- เมื่อ 5 เดือนที่แล้วได้มีเพศสัมพันธ์ ไม่ได้ป้องกัน หลังจากนั้นฝ่ายหญิงบอกเป็นตกขาว ส่วนผมมีผืนแดงขึ้นที่ปลายอวัยวะเพศ
- ลองหาข้อมูลอาจเป็นผลจาก Candida เลยทา Clotrimazole ดีขึ้น หาย
- ต่อมามีเพศสัมพันธ์อีก จากนั้น มีผื่นแดงเป็นการอักเสบตามรูขุมขนที่โค่นอวัยวะเพศ บางทีก็คัน ถ้าเกาก็จะเริ่มคันมากขึ้น ไม่ปวดแสบปวดร้อน (หลังจากนี้ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลย)
- ก็ทา Clotrimazole 1 เดือนกว่า ยังไม่หาย บริเวณเดิมดีขึ้น แต่ผื่นการอักเสบของรูขุมขนลุกลามไปเรื่อย
- เลยลองเปลี่ยนมาใช้ Ketoconazole ใช้มาประมาณ 1 เดือนกว่า ยังไม่ดีขึ้น ลุกลามมากขึ้นตามภาพ
- ขณะนี้หยุดทายา และกำลังกิน Dicloxacillin 500mg

อยากสอบถามว่า เป็นอะไรอ่าครับ และจะรักษาได้ยังไงครับ

 

ภาพนี้ครับ

1. http://haamor.com/media/images/webboardpics/cheab1-4780-1.jpg

2. http://haamor.com/media/images/webboardpics/cheab1-4780-2.jpg

3. http://haamor.com/media/images/webboardpics/cheab1-4780-3.jpg

4. http://haamor.com/media/images/webboardpics/cheab1-4780-4.jpg

อายุ: 27 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 78 กก. ส่วนสูง: 178ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.62 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

24 เมษายน 2556 07:25:32 #2

น่าจะเป็นการอักเสบของรูขุมขนคบล้ายกับการเป็นสิวที่หน้า ถ้ากินยา dicloxacillin ครบ 1 อาทิตย์แล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ให้กิน erythromycin ครั้งละ 500 มิลลิกรัม หลังอาหารและก่อนนอน ถ้า 1-2 อาทิตย์ยังไม่ดีขึ้น แนะนำพบแพทย์ครับ อักสาเหตุหนึ่งที่เป็นได้ จากรูปอาจเป็นหิด แต่ต้องมีตุ่มบริเวณตัวองคชาติ และรอบๆเอว หรือตามต้นขาด้วย และจะคันมากเวลากลางคืน แต่ถ้าไม่มีอาการดังกล่าว ก็คงเป็นเรื่องของการอักเสบ สำหรับยา clotrimazole และ ketoconazole เป็นยาเชื้อราทั้งคู่ตรับ

นพ. อนุพงศ์