กระดานสุขภาพ

น้ำเหลืองไม่ดีหรือป่าว
Athi*****a

15 เมษายน 2556 12:47:17 #1

คือ มีตุ้มใส คัน มีน้ำข้างใน ไม่หายซะที ยิ้งเกายิ่งคัน มักเป็นที่หลังมือ หลังเท้า เป็นแผลก็หายยาก

ใช่น้ำเหลืองไม่ดีหรือป่าวค่ะ แล้วจะต้องทำยังไง

......ขอบคุณค่ะ.......

อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 47 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.36 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

17 เมษายน 2556 04:36:07 #2

ถึง คุณ Athittaya

รบกวนคุณ Athittaya ช่วยให้ข้อมูลเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้คุณหมอวินิจฉัยได้ตรงจุดยิ่งขึ้นนะคะ

  1. ระยะเวลาที่เป็นนานกี่เดือน - กี่ปีแล้ว
  2. ผื่นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เริ่มที่มือหรือเท้าก่อน ผื่นได้ลามไปยังอวัยวะอื่นด้วยหรือไม่
  3. เป็นตุ่มน้ำอย่างเดียวใช่หรือไม่ ตุ่มน้ำนั้นอยู่เป็นกลุ่มหรือมีตุ่มเดียว หรือรวมกันเป็นปื้น ผิวหนังส่วนใต้ตุ่มน้ำนั้นบวมหรือไม่ มีสะเก็ดมากไหม สะเก็ดสีอะไร
  4. หรือผื่นมีตุ่มปนด้วย หากมีตุ่ม ตุ่มสีอะไร ตุ่มอยู่รวมเป็นปื้นหนาปนกับตุ่มน้ำหรือไม่ มีขุยปนสะเก็ดหรือไม่
  5. ผิวหนังบริเวณตุ่มน้ำสีอะไร
  6. คันมากน้อยเพียงใด
  7. ผู้คนใกล้ชิด คือคนในบ้าน คนที่ทำงาน คนอื่นเป็นหรือไม่
  8. อาชีพอะไร ลักษณะงานที่ทำ หากเป็นนักศึกษาเรียนสาขาอะไร มีการฝึกงาน รวมถึงงานอดิเรกอะไรบ้าง การสัมผัสกับน้ำยา สิ่งของ สารเคมีอะไรบ้าง ใส่ถุงมือหรือเปล่า ข้อนี้ควรเล่าให้ละเอียดหน่อย
  9. ใช้เครื่องสำอาง ครีมบำรุง เยล ยาย้อมผม หรือใช้แชมพูเปลี่ยนสีผมอะไรบ้าง
  10. การรักษาที่ผ่านมาได้ทั้งยากิน ยาทาอะไรบ้าง ผลเป็นอย่างไร
  11. ข้อมูลอื่นๆที่คุณ Athittaya คิดว่าอาจมีประโยชน์ หรืออาจเกี่ยวข้องด้วย
Athi*****a

18 เมษายน 2556 04:09:17 #3

ค่ะ รู้สึกว่าจะเป็นมานานแล้วตั่งแต่เด็ก เป็นๆ หายๆ ส่วนมาก อากาศเปลี่ยนค่ะ มันจะขึ้นเป็นฝื่นตุ่ม ตามหลังเท้า หลังมือ หรือไม่ก็ ค้อพับขา ตรงหัวเข่าด้านในอะค่ะ แล้วก็บริเวณต้นคอ  แต่ส่วนมากที่เป็นแบบขึ้นมากๆก็ตรงหลังเท้ามันจะขึ้นฝื่นตุ้ม เป็นปื้นเลยค่ะ ตามหลังมือ ก็มีจุด สองจุดไม่มาก แต่ที่ต้นคอจะเป็นเหมือนฝื่นไม่ใช้ตุ่มใหญ่ไม่คันมากเหมือนหลังเท้า แต่ตรงหลังเท้าน่ะมันก็บางเวลาก็คัน บางเวลาก็ไม่คัน ทางที่ดีคืออย่าเกาเป็นดีที่สุดเพราะยิ่งเกาก็ยิ่งคัน แล้วก็เหมือยเราไปโดยมันมันก็เกิดปฏิกิริยาทันที ตุ่มจะเหมือนมีน้ำอยู่ข้างใน  พอเราบีบหรอเกา มันก็จะแตกก็หายคันอยู่  คือเป็นแบบนี้เหมือนอาการแพ้อากาศค่ะ เป็นมาตั่งแต่เด็กเท่าที่จำความได้ตั่งแต่ ป. 3-4 นี้ละ เป็นแผลก็หายยาก แต่คงไม่ใช่เบาหวานใช่ไหมค่ะ สงใสจะเป็นกรรมพันธ์หรือป่าว พ่อหนูก็เป็นแบบนี้เหมือนกันแต่พ่อคือถ้าอากาศเปลือนแกก็เป็นแพ้อากาศ จะเป็นปื้นขึ้นเต็มตัวคัน แต่ไม่ได้เป็นตุ้นน้ำเหลืองเหมือนหนู พ่อก็นานๆทีเขาก็เป็น  ส่วนมากฝื่นตุ้นคันนี้มันมักจะขึ้นที่เดิมน่ะค่ะ มันไม่ค่อยขึ้นที่อื่นเลย เคยไปหาหมอ หมอก็ให้แค่ยาแก้แพ้ แก้คัน ครีมทา แก้คัน  จำได้ตั่งแต่เด็กเริ่มเป็นที่ข้อพับขาตรงข้อพับหัวเข่าอะค่ะ ไปหาหมอ หมอบอกอย่าเกานะมันจะดำ ตอนนันก็เด็กเลยไม่ฟังเท่าไหร เลยเกาจนถึงตอนนี้หนูไม่กล้าใส่กางเกงขาสั้นออกนอกบ้านเลย เพราะมันดำ ขาพับดำเหมือนคนไม่ถูขี้ไคร  แล้วพอมีทางช้วยให้หายได้ไหมค่ะ 

ขอบคุณคุณหมอค่ะ

Athi*****a

18 เมษายน 2556 04:09:24 #4

ค่ะ รู้สึกว่าจะเป็นมานานแล้วตั่งแต่เด็ก เป็นๆ หายๆ ส่วนมาก อากาศเปลี่ยนค่ะ มันจะขึ้นเป็นฝื่นตุ่ม ตามหลังเท้า หลังมือ หรือไม่ก็ ค้อพับขา ตรงหัวเข่าด้านในอะค่ะ แล้วก็บริเวณต้นคอ  แต่ส่วนมากที่เป็นแบบขึ้นมากๆก็ตรงหลังเท้ามันจะขึ้นฝื่นตุ้ม เป็นปื้นเลยค่ะ ตามหลังมือ ก็มีจุด สองจุดไม่มาก แต่ที่ต้นคอจะเป็นเหมือนฝื่นไม่ใช้ตุ่มใหญ่ไม่คันมากเหมือนหลังเท้า แต่ตรงหลังเท้าน่ะมันก็บางเวลาก็คัน บางเวลาก็ไม่คัน ทางที่ดีคืออย่าเกาเป็นดีที่สุดเพราะยิ่งเกาก็ยิ่งคัน แล้วก็เหมือยเราไปโดยมันมันก็เกิดปฏิกิริยาทันที ตุ่มจะเหมือนมีน้ำอยู่ข้างใน  พอเราบีบหรอเกา มันก็จะแตกก็หายคันอยู่  คือเป็นแบบนี้เหมือนอาการแพ้อากาศค่ะ เป็นมาตั่งแต่เด็กเท่าที่จำความได้ตั่งแต่ ป. 3-4 นี้ละ เป็นแผลก็หายยาก แต่คงไม่ใช่เบาหวานใช่ไหมค่ะ สงใสจะเป็นกรรมพันธ์หรือป่าว พ่อหนูก็เป็นแบบนี้เหมือนกันแต่พ่อคือถ้าอากาศเปลือนแกก็เป็นแพ้อากาศ จะเป็นปื้นขึ้นเต็มตัวคัน แต่ไม่ได้เป็นตุ้นน้ำเหลืองเหมือนหนู พ่อก็นานๆทีเขาก็เป็น  ส่วนมากฝื่นตุ้นคันนี้มันมักจะขึ้นที่เดิมน่ะค่ะ มันไม่ค่อยขึ้นที่อื่นเลย เคยไปหาหมอ หมอก็ให้แค่ยาแก้แพ้ แก้คัน ครีมทา แก้คัน  จำได้ตั่งแต่เด็กเริ่มเป็นที่ข้อพับขาตรงข้อพับหัวเข่าอะค่ะ ไปหาหมอ หมอบอกอย่าเกานะมันจะดำ ตอนนันก็เด็กเลยไม่ฟังเท่าไหร เลยเกาจนถึงตอนนี้หนูไม่กล้าใส่กางเกงขาสั้นออกนอกบ้านเลย เพราะมันดำ ขาพับดำเหมือนคนไม่ถูขี้ไคร  แล้วพอมีทางช้วยให้หายได้ไหมค่ะ 

ขอบคุณคุณหมอค่ะ

ผศ.นพ. จรูญ เจตศรีสุภาพ

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อนุสาขากุมารเวชศาสตร์ตจวิทยา

19 เมษายน 2556 03:56:36 #5

คุณ Athittaya ให้รายละเอียดของอาการได้มาก ทำให้ทราบว่าเป็นโรคผิวหนังอักเสบเหตุภูมิแพ้ atopic dermatitis ครับ

โรคผิวหนังอักเสบเหตุภูมิแพ้เป็นโรคผิวหนังอักเสบ มีผื่นคันเป็นๆหายๆ คุณ Athittaya เป็นชนิดที่พบในวัยผู้ใหญ่ จึงมีตุ่มสีแดง หรือตุ่มน้ำ คันมาก เมื่อเกามากๆ ทำให้ผื่นหนา ผื่นขึ้นตามข้อพับของแขนและขา ตรงข้อศอก ข้อเข่าด้านใน เป็นที่มือ เท้า รอบคอ บริเวณต้นคอ

เหตุกระตุ้นที่ทำให้คุณ Athittaya เป็นมากขึ้น คือ การเกา

การเกาผิวหนัง เริ่มต้นจากมีการระคายเคือง สาเหตุการระคายเคืองที่สำคัญ คือ สิ่งแวดล้อมรอบตัว ได้แก่ อุณหภูมิที่ร้อนเกินไป หรือหนาวเกินไป ที่คุณ Athittaya บอกว่าแพ้อากาศนั่นแหละครับ นอกจากนั้นอากาศที่แห้งมาก หรือชื้นมาก (หรืออากาศรอบตัวอาจไม่ร้อนมาก หนาวก็ไม่มาก แห้งนิดหน่อย หรือชื้นแค่เล็กน้อย แต่การต้องอยู่ในสถานที่นั้นนานๆ ก็ทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้) ดังนั้นการทำงาน การเล่นเกมส์ในห้องปรับอากาศตลอดเวลา หรือการตากแดดนานๆ อากาศไม่สามารถไหลเวียนอย่างเพียงพอ เหล่านี้เป็นปัจจัยทำให้ผิวหนังระคายเคือง

เหตุอื่นได้แก่ การมีเหงื่อออกมาก ไม่ว่าขณะทำงาน เล่นกีฬา หรือขณะดำเนินชีวิตประจำวัน ขึ้นรถ ลงเรือ การสวมใส่เสื้อผ้าที่หยาบ หนา เสื้อผ้าที่มีขน หรือผ้าไม่ซับเหงื่ออย่างผ้าไนล่อน การแพ้สบู่หรือเครื่องหอม เรื่องอาหารก็เป็นเรื่องใหญ่ บางคนเป็นมากขึ้นเมื่อกินอาหารทะเลชนิดมีเปลือก คือ กุ้ง ปู ปลาหมึก หอย บางคนแพ้นมวัว แพ้นมถั่วเหลือง แพ้ผลไม้ แพ้สารปรุงแต่งอาหาร แพ้แป้งทำขนม แพ้แป้งขนมปัง แพ้อาหารชุบแป้งทอด ไข่ ถั่ว บางคนก็แพ้สารต่างๆในสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่นบ้าน ตัวไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ ดอกหญ้า แพ้แมลง แพ้ซากแมลง ขนสัตว์และรังแคสัตว์ ทั้งสุนัข แมว หรือกระต่าย ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเรื่องอารมณ์ เช่น เวลาเครียดงาน เครียดเรียน เวลาใกล้สอบ ใกล้ส่งงาน เครียดปัญหาในครอบครัว มีความห่วงกังวลใจมาก ปัจจัยเหล่านี้ทำให้กระตุ้นการคัน และการเกาได้มากๆ

สาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรียภายหลังการเกา ถู ข่วน ขูด เมื่อถูกยุงกัด มดกัด จากเหตุที่ผิวแห้ง ก็ทำให้โรคกำเริบมากขึ้น ตรงกับที่คุณ Athittaya เล่าว่าตอนวัยเด็กเป็นแผลแล้วหายยาก

เมื่อเป็นเด็ก ขณะนั้นผิวหนังเด็กจะแห้ง เนื่องจากเซลล์ชั้นหนังกำพร้าเก็บรักษาความชุ่มชื้นไม่ได้ดี มีอาการคันได้มาก และระคายเคืองต่อสารสัมผัสภายนอกได้ง่าย วัยเด็กทารกผื่นจะขึ้น 2 ข้างแก้ม ที่แขน ขาด้านนอก ลักษณะผื่นจะเป็นตุ่มแดงคัน หรือตุ่มน้ำใสมีน้ำเหลือง สะเก็ด และติดเชื้อแบคทีเรียได้บ่อย

เมื่อเด็กโตขึ้น อายุเกิน 2 ปี ผื่นคันจะย้ายไปขึ้นทางด้านข้อพับของแขนและขาทั้ง 2 ข้างทางด้านใน อาการคันมากจนเด็กไม่สามารถหยุดเกาได้ ผื่นเริ่มหนามากขึ้นเนื่องจากเกามาก ต่อมาผื่นกลายเป็นสีน้ำตาลเหมือนคนไม่ถูขี้ไคล ถูกเพื่อนฝูงทัก เบื่อหน่ายเวลามีคนมาจ้องมอง หรือต้องอธิบายให้เพื่อนฟัง ทำให้ไม่อยากสวมกางเกงขาสั้น หรือเสื้อเปิดแขนออกนอกบ้าน

โรคผิวหนังอักเสบเหตุภูมิแพ้ เป็นโรคพันธุกรรมภูมิแพ้ครับ จึงพบว่า คุณพ่อของคุณ Athittaya ก็เป็นเหมือนกัน

โรคภูมิแพ้เป็นกลุ่มโรคที่การเกิดโรคเป็นต่ออวัยวะที่แพ้ไม่เหมือนกัน บางคนเป็นที่ผิวหนังทำให้คันผิวหนัง บางคนเป็นที่เยื่อตาทำให้คันตา บางคนเป็นที่จมูก ทำให้จมูกแฉะคันจมูก บางคนเป็นหลอดลม เกิดระคายหลอดลม เป็นโรคหอบหืด และบางคนเป็นครบทุกอย่าง (คือทั้งคันผิวหนัง คันตา ตันจมูก คันจมูก กับเป็นหอบหืดด้วย) ดังนั้นแต่ละคน อาการหนักเบาต่างกัน

คุณ Athittaya จะเห็นได้ว่าโรคกลุ่มนี้เป็นกับอวัยวะที่สัมผัสกับสิ่งแวดล้อมทั้งนั้น คือ ผิวหนัง เยื่อเมือกของตา เยื่อเมือกของจมูก เยื่อเมือกของหลอดลม ส่วนอวัยวะสำคัญภายใน คือ สมอง หัวใจ ตับ ไต เม็ดเลือดหรือน้ำเลือด ไม่มีส่วนใดที่สัมผัสกับอากาศสิ่งแวดล้อมโดยตรง อวัยวะภายในเหล่านี้จึงไม่เป็นโรคภูมิแพ้

โรคนี้จึงมิได้เป็นโรคร้ายแรง รุนแรง เหมือนกับโรคแพ้ภูมิตัวเองครับ

การป้องกัน คุณ Athittaya ลองสังเกตปัจจัยกระตุ้นการคัน และหลีกเลี่ยงปัจจัยนั้นๆ คือ เรื่องอุณหภูมิ ความแห้งความชื้นของอุณหภูมิรอบตัว เรื่องสิ่งแวดล้อมในบ้าน ที่ทำงาน เครื่องแต่งกาย การสัมผัสการใช้เครื่องสำอางต่างๆ ใช้สบู่อ่อนๆ สังเกตเรื่องแพ้อาหาร รวมถึงเรื่องอารมณ์ด้วย

ส่วนที่มือและเท้า ต้องไม่ล้างมือนานๆ ไม่ล้างเท้านานๆ หรืออาบน้ำนานๆ และไม่ทำบ่อยๆ เพราะจะยิ่งทำให้ความชุ่มชื้นผิวหนังถูกลมพัดพาไป เมื่อล้างมือ ล้างเท้า อาบน้ำเสร็จ ต้องรีบเช็ดมือ เช็ดเท้า เช็ดตัวให้แห้ง ทาผิวด้วยสารทำให้นุ่มและชุ่มชื้น คือ ครีมหรือโลชั่นชนิดอ่อน แนะนำให้ทาหลังล้างมือ ล้างเท้า และเวลาอาบน้ำทันที อุณหภูมิน้ำที่ใช้ล้างหรืออาบควรเป็นอุณหภูมิห้องที่ไม่ร้อน หรือเย็นเกินไป

คุณ Athittaya ต้องเกาให้น้อยลง จะทำให้ผื่นลดลง ไม่หนาและไม่มีสีดำ ส่วนการรักษาหลัก คือ การใช้ครีมสเตรอยด์ทาเพื่อลดการอักเสบ และกินยาแก้แพ้ เพื่อลดอาการคัน อย่างที่คุณ Athittaya ได้รับมาโดยตลอดนั่นแหละครับ หากไม่ดีขึ้นแพทย์จึงจะพิจารณาใช้ยาควบคุมภูมิคุ้มกัน หรือยากดภูมิร่างกายต่อไป

สุดท้ายขอเอาใจช่วยคุณ Athittaya ให้อาการดีขึ้นและหายไวๆนะครับ