กระดานสุขภาพ

สวัสดีครับขอสอบถามเรื่องอาการกังวลมากๆ
Ziji*****o

3 กันยายน 2561 08:04:21 #1

สวัสดีครับผมเคยมีความเสี่ยงและกิน pep ครบ 28 วันตรวจเลือดผลลบ เลือดเลือดว่าสุดหลังเสี่ยง 146 วันผลก็ยังลบ
ประเด็นคือช่วงในระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ผมคลำเจอก้อนเนื้อก้อนเล็กๆ กลมๆ ดิ้นได้กดไม่เจ็บไม่ปวด และที่ขาหนีบเช่นกัน 1 ก้อนเล็กๆกลมๆ กดไม่เจ็บไม่ปวด ขนาดไม่ใหญ่ขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะยุบลง ไม่มีอาการแทรกซ้อนอื่นๆเลยครับ (ผมไม่แน่ใจว่าก้อนพวกนี้มันโตมานานหรือยังตั้งแต่ก่อนเสี่ยงหรือปล่าวผมไม่แน่ใจ เพราะพึ่งมาสังเกตุตัวเองตอนหลังเสี่ยง) ไปหาหมอมา 3 หมอ หมอทุกท่านบอกขนาดไม่ใหญ่ยังเล็กๆ และก็บอกว่าถ้าโตเกิน 1 cm ค่อยผ่าและให้ยามากิน ก็ยังไม่ยุบ เลยไปโรงบาลหมอเจาะเลือดดูค่า cbc ผลเลือดปกติหมอก็ไม่ได้นัดเพิ่มเติมและไม่ได้ให้ยา
เลยอยากจะปรึกษาและสอบถามว่า
1. อาการทั้งหมดที่ผมเล่ามาเกี่ยวกับ HIV มั้ยครับ
2. อาการต่อมน้ำเหลืองผมเกิดจากอะไร
3. โดยปกติต่อมน้ำเหลืองจะมีขนาดเท่าไหร่ โตเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าอักเสบหรือโต
4. โดยปกติต่อมน้ำเหลืองบริเวณคือและขาหนีบ จะสามารถคลำพบได้มั้ยครับ
5. อาการต่อมน้ำเหลืองผมจะยุบมั้ยหรือว่าจะสามารถคลำได้แบบนี้ตลอดไป
6. การที่ผมกิน pep ทำให้ระยะวินโดว์ยาวขึ้นหรือปล่าว ผมต้องตรวจซ้ำอีกที่กี่เดือนครับ

ขอบพระคุณคุณหมอมากๆเลยนะครับ ขอคำตอบแบบเป็นข้อๆเลยนะครับ

อายุ: 35 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 78 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.99 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

3 กันยายน 2561 18:10:18 #2

อาการของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งสามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ในกรณีของคุณที่มีความเสี่ยงแต่กินยาป้องกันหลังเสี่ยง ถ้าเริ่มกินภายใน 72 ชมฺ และกินจนครบ 4 อาทิตย์ รวมทั้งผลการตรวจเลือดที่ 140 กว่าวันหรือเกือบ 5 เดือนเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อแน่นอน ไม่มีโอกาสที่ร่างกายจะติดเชื้อโดยไม่มีการสร้างแอนติบอดี อาการต่างๆที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่น หรือเกิดจากความกังวล ความเครียด กลัวว่าจะติดเชื้อ ส่วนเรื่องต่อมน้ำเหลืองนั้น การที่มีต่อมน้ำเหลืองโตหลายแห่ง เช่น ขาหนีบ คอ หลังหู เป็นต้น เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส เมื่อเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด เป็นปฏิกิริยาของร่างกายในการที่พยายามจะสร้างภูมิต้านทานเพือ่จำกัดเชื้อจึงทำให้ต่อมน้ำเหลืองโต ในกรณีของคุณที่หาหมอแล้ว ตรวจพบว่ามีขนาดเล็ก ไม่ต้องกังวลครับ

Ziji*****o

4 กันยายน 2561 00:06:16 #3

สมมุติผมติดเชื้อ ถ้าต่อมน้ำเหลืองโตผลเลือดต้องลวกแล้วใช่มั้ยครับ
Haamor Admin

(Admin)

4 กันยายน 2561 09:17:59 #4

ผลเลือดต้องลวก นี่คืออะไรเหรอคะ

Ziji*****o

4 กันยายน 2561 11:48:37 #5

บวก ครับพิมผิด
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

5 กันยายน 2561 02:36:35 #6

ตามที่ได้ตอบไปแล้ว ถ้าคุณติดเชื้อและมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต ผลการตรวจเลือดต้องเป็นบวก แต่ในกรณีของคุณ ผลการตรวจเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ครับ