กระดานสุขภาพ

การใช้ยาสอดเพื่อรักษาเชื้อราในช่องคลอดมีผลทำให้ประจำเดือนไม่มาไหมคะ
Anonymous

18 สิงหาคม 2561 10:57:56 #1

สวัสดีค่ะ อยากสอบถามคุณหมอค่ะ คือปกติเป็นคนประจำเดือนมาไม่ตรงเวลาอยู่แล้ว แต่จะมาช่วงราวๆกลางเดือน ล่าสุดประจำเดือนมาวันที่ 17-21 ก.ค. ค่ะ แต่วันที่ 4 สิงหา หนูได้ใช้ยาสอดเพื่อรักษาเชื้อราในช่องคลอดเป็นเวลา 6 วัน ร่วมกับกินยาฆ่าเชื้อราด้วย อยากทราบว่า ยาพวกนี้มีผลให้ประจำเดือนเลท หรือไม่มาไหมคะ แล้วจะเป็นอันตรายไหมคะ คือปกติแล้วเวลาประจำเดือนจะมา จะมีอาการปวดท้องน้อยเล็กน้อย และก็คัดเต้านม แต่เดือนนี้ไม่มีอาการใดๆเลยค่ะ อย่างนี้ผิดปกติไหมคะ
อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 66 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.78 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

19 สิงหาคม 2561 16:02:16 #2

การรักษาการติดเชื้อราโดยใช้ยาสอดทางช่องคลอดร่วมกับรับประทานยาฆ่าเชื้อราด้วยนั้น ไม่ได้มีผลต่อเรื่องของรอบเดือนค่ะ การที่รอบเดือนของคุณมาไม่ตรงตามปกตินั้นอาจจะมีสาเหตุมาจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติก็ได้ เช่น ภาวะไข่ไม่ตกหรือเป็นกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่ซึ่งภาวะเหล่านี้จะมีผลทำให้การตกไข่ไม่ปกติ เพราะผิวรังไข่มีความหนาตัวมาก เมื่อไข่ไม่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไปทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุกและหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน รอบเดือนจึงไม่มาตามปกติค่ะ คุณมีน้ำหนักตัวมากถึง 66 กิโลกรัม ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะดังกล่าว ที่ทางการแพทย์เรียกว่าภาวะ PCOS (polycystic ovarian Syndrome) หรือภาวะกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่ค่ะ ซึ่งจะพบในสตรีที่มีน้ำหนักตัวมาก ถ้ารอบเดือนขาดหายไปนาน เกิน 3 เดือน อาจจะเสี่ยงกับเรื่องของมะเร็งผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ในกรณีที่รอบเดือนขาดหายไปนานและคุณมีความวิตกกังวลมาก ก็สามารถรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเพื่อให้รอบเดือนมาได้ตามปกติค่ะ รับประทานนานประมาณ 7-10 วัน รอบเดือนก็จะมาได้โดยสามารถปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาเพื่อหาซื้อฮอร์โมนตัวนี้มารับประทานหรืออาจจะไปพบแพทย์เพื่อรับฮอร์โมนดังกล่าวมาทานก็ได้ค่ะ