อาการคันตามที่เล่ามา สาเหตุ 1. เชื้อรา มักจะพบในคนที่มีเหงื่อออกมาก เช่นนักกีฬา หรือคนที่ทำงานกลงแจ้ง ใส่ชุดที่อับชื้น รักษาโดยการใช้ยาทาหรือยากินเชื้อรา เช่น clotrimazoleหรือ Iitraconazole ใช้เวลาประมาณ 4-6 อาทิตย์ ก็จะหาย เมื่อหายแล้วต้องระวังเรื่องสุขอนามัย เช่นอาบน้ำเช้าเย็น ใส่ชุดชั้นในที่แห้งและสะอาด ถ้าชุดชั้นในอับชื้นหรือมีเหงื่ออก ต้องรับอาบน้ำและเปลี่ยนชุดโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นอีก 2. แพ้หรือระคายเคืองสารที่สัมผัส ทำให้คันและเกาจนเป็นผื่น รักษาโดยกินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม เช้าเย็น ทายาแก้แพ้ เช่น betamethasone เมื่อหายแล้วต้องระวังอย่าให้สัมผัสสารที่สงสัยว่าจะแพ้และห้ามใช้น้ำยาทำความสะอาดเพราะจะมำให้แพ้และเป็นมากขึ้นได้ หรือ 3 อาจจะเป็นทั้งแพ้และเชื้อราร่วมกัน แนะนำหาหมอ อาจจะต้องมีการขูดผิวหนังเพื่อดูว่ามีเชื้อราหรือไม่ 4. โรคผิวหนังอื่นๆ เช่น

หิด เป็นโรคผิวหนังที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือการสัมผัสอย่างใกล้ชิด นอกจากมีตุ่มบริเวณอวัยวะเพศแล้ว มักจะมีตุ่มคันที่หน้าท้อง รอบเอว และง่ามนิ้วมือ รักษาโดยให้อาบน้ำ ฟอกสบุ่ให้สะอาด ใช้ยา hexin ทาทั่วตัวตั้งแต่คอลงมา ถึงปลายมือปลายเท้า ทิ้งไว้ 24 ชม. ถ้าอาบน้ำค้องทาซ้ำ หลังจากนั้น รอจนครบ 1 อาทิตย์ ให้ทาซ้ำอีก 1 ครั้ง ให้รักษาคนที่อยู่ใกล้ชิด นอนเตียงเดียวกัน และทำความสะอาดเครื่องนอน หมอน ผ้าห่ม โดยสรุป แนะนำหาหมอผิวหนังหรือส่งภาพถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นมาให้ดูเพิ่มเติมครับ

ขอบคุณคุณหมออนุพงศ์อย่างยิ่งครับ มีคำวินิจฉัยในเบื้องต้น ขออนุญาตเพิ่มเติมว่ากระเนื้อเล็กๆ ที่ขี้นตรงถุงอัณฑะนั้นมีส่วนทำให้เกิดอาการคันได้ไหมครับ (นอกเหนือจากข้อสงสัยเรื่องเชื้อรา) เนื่องจากผมมีกระขึ้นตามตัวอยู่ เช่น บริเวณกลางแผ่นหลัง บริเวณข้างศรีษะซึ่งมีอาการคันอยู่เช่นกัน และผมอยากทำเลเซอร์หรือลอก หรือตัดกระเหล่านี้ออกด้วยครับ

กระเนื้อมีหลายสาเหตุ อาจจะเป็นชนิดที่เกิดจากการสร้างสารสีมากผิดปกติหรือจากการแพ้ระคายเคืองต่อสารที่มาสัมผัสหรือสิ่งแวดล้อมเช่นแสงแดดเป็นตัวกระตุ้น เพราะฉะนัน อาจจะมีอาการคันได้ แนะนำหาหมอครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของคุณหมออนุพงศ์ครับ