กระดานสุขภาพ

เดิมทานยาคุมและ sertraline และ รพ.ให้ยาฆ่าเชื้อมาจะสามารถทานร่วมกันได้ไหม
Anonymous

1 สิงหาคม 2561 12:16:14 #1

สวัสดีค่ะ เดิมรับประทานยาคุมกำเนิดยี่ห้อพรีม และยา sertraline อยู่ แต่วันนี้ไป รพ. เพราะมีอาการเจ็บปวดในหูหมอจึงจ่ายยาหยอดหู, CIPROfloxacin และ Paracetamol ให้ค่ะ จึงอยากทราบว่ายาตัวไหนจะทำให้ประสิทธิภาพคุมกำเนิดลดลง หรือเกิดอาการยาตีกันบ้างหรือเปล่าคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
อายุ: 15 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.31 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

3 สิงหาคม 2561 00:43:13 #2

เรียน คุณ e82bc,


เนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลมาว่ายาที่รักษาเกี่ยวกับเรื่องภาวะหูอักเสบนั้น รับประทานยา Ciprofloxacin ขนาดความแรงเท่าใด รับประทานยาติดต่อกันเป็นเวลากี่วัน

เป็นการรับประทานยาเพื่อการคุมกำเนิด หรือเพื่อการรักษา (เช่น การปรับฮอร์โมนเพศ รักษาภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ภาวะก่อนมีประจำเดือน ฯ)

- หากรับประทานยาเพื่อการคุมกำเนิด แนะนำให้ใช้การสวมถุงยางอนามัยร่วมด้วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการคุมกำเนิด เนื่องจากยาปฏิชีวนะ อาจทำให้ระดับยาคุมฯในเลือดลดลง จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

โดยให้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยหากจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ขณะที่รับประทานยาปฏิชีวนะอยู่ และหลังจากรับประทานยาหมดแล้วอีก 3-5 วัน

- หากรับประทานยาเพื่อการรักษา ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย เนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ เพียงแต่อาจเกิดภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอยได้บ้าง หากระดับยาในเลือดลดต่ำลง

ส่วนรายการยาอื่น ๆนั้น เท่าที่มีการสืบค้น ไม่มีปฏิกิริยาระหว่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แต่ทั้งนี้ให้หมั่นสังเกตอาการผิดปกติด้วยว่า มีอาการผิดปกติใดบ้าง และมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นขณะรับประทานยาปฏิชีวนะร่วมด้วย เช่น เวียนศีรษะ มึนงง หน้ามืด เป็นลม ใจสั่น หรือมีเลือดประจำเดือนมาก่อนกำหนด ฯ หากมีอาการดังกล่าว ควรรีบกลับไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ขอแนะนำเพิ่มเติม หากยังไม่ได้แต่งงาน และรับประทานยาเพื่อการคุมกำเนิด อาจมีทางเลือกอื่นนะครับ ที่เหมาะสมคือการสวมถุงยางอนามัย เพราะนอกจากช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่นหนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน (หนองในเทียม) พยาธิในช่องคลอด ไวรัสเริม ไวรัสตับอักเสบชนิดบี/ซี หรือหากโชคร้ายสุดคือไวรัสเอชไอวี ที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ที่ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายขาด

และยังช่วยป้องกันไวรัสเอชพีวี ที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง และหูดหงอนไก่ / มะเร็งองคชาติในเพศชายได้อีกด้วย

หรืออาจปรึกษาสถานพยาบาลของรัฐ เพื่อรับการฝังยาคุมกำเนิดได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สำหรับหญิงอายุน้อยกว่า 20 ปีนะครับ

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา/ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจต้องมีการสอบถามข้อมูลอืี่นๆเพิ่มเติม หรือในบางครั้งอาจช้าเกินไป ไม่ทันการ เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้


เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

  • ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
  • แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
  • สูตินรีแพทย์
  • (ตัวอย่าง) ยาลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด (Common medications that reduce efficacy of birth control medications)
  • ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม
  • ยาฝังคุมกำเนิด (Contraceptive implant)
  • รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ประนอม บุพศิริ
  • สูตินรีแพทย์