กระดานสุขภาพ

ประจำเดือนมา2อาทิตย์ยังไม่หยุด
Anonymous

18 กรกฎาคม 2561 08:10:25 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ คือประจำเดือนมา2อาทิตย์แล้วจะเข้า3อาทิตย์แล้วค่ะ ยังไม่ยอมหยุดเลย ก่อนหน้านั้นประจำเดือนหนูไม่มาตั้งแต่เดือน มีนาคม-พฤกษภาคม แต่ตอนปลายเดือนมิถุนายน ประจำเดือนก็มากระปริดกระปอย เป็นสีน้ำตาล ประมาณ3วันค่ะ หลังจากนั้นมันก็หายไป3วัน แต่วันที่4 กีกฎาคมกลับมีประจำเดือนมาอีกจนตอนนี้ก็ยังไม่หายค่ะ ตอนที่มาตั้งแต่วันที่4ประจำเดือนมาไม่เยอะค่ะ หลังจากวันนั้นประจำเดือนมาเยอะขึ้นเรื่อยๆจนถึงวันนี้ค่ะคุณหมอ เลือดที่ออกมันเป็นเหนียวๆหนืดๆค่ะคุณหมอ ออกมาประมาณ1ช้อนโต๊ะได้ค่ะ ออกมาตลอดเวลาหนูไปปัสสาวะเลือดก็จะออกมาแบบนี้ แต่หนูไม่ค่อยมีอาการปวดท้องค่ะ จะมีบ้างแต่ไม่ปวดมากค่ะ แต่เวลาปวดมันจะมีการปวดร้าวไปที่เอวร่วมด้วยค่ะ แต่ว่าปวดไม่มาก เลือดประจำเดือนไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีอาการคันช่องคลอดค่ะ ที่หนูเป็นถือว่าผิดปกติมั้ยค่ะ ปล.หนูเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ค่อยปกติค่ะ มีลูก1คนคุมกำเนิดมา5ปี แต่เลิกกินยาคุมได้3ปีแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่ได้คุมอะไร แต่ตอนที่เลิกกินยาคุมประจำเดือนไม่มา1ปี เลยไปหาหมอ หมอให้ยาฮอรโมนมากิน เมน์ก็มาแต่พอไม่กินก็ไม่มาค่ะ หนูก็ไปหาหมออีกรอบทีาสองก็ได้ยามากินอีกเมน์ก็มา แต่พอยาหมดเมนก็ไม่มาหนูก็ไม่ได้ไปหาหมออีก แต่หลังจากนั้นอีก2เดือนประจำเดือนหนูก็มาแล้วก็มาปกติทุกเดือนมาเดือนละ5วันจนถึงกุมภาปีนี้แล้วตั้งแต่มีนาคมเป็นต้นมาประจำเดือนก็ไม่มาค่ะ อย่างที่หนูเล่าให้หมอฟังข้างต้นนะค่ะ รบกวนคุณหมอช่วยหนูหน่อยนะค่ะ หนูกังวลมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ
อายุ: 28 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.55 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

19 กรกฎาคม 2561 10:15:09 #2

จากอาการที่คุณบอกมาคุณน่าจะมีปัญหาเรื่องรอบเดือนที่มาไม่ปกติค่ะ นานๆมาครั้งหนึ่งถ้ามาแล้วก็จะมานานซึ่งสาเหตุน่าจะเกิดจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติเช่นมีภาวะ PCOS (polycystic ovarian Syndrome ) ซึ่งภาวะนี้ผิวรังไข่จะมีความหนาตัวมาก จนไข่ไม่สามารถตกได้ตามปกติและเมื่อไข่ไม่ตกก็จะทำให้มีประจำเดือนที่ไม่ค่อยมาผนังเยื่อบุโพรงมดลูกก็จะมีความหนาตัวมาก ถ้ามีความหนาตัวมากถึงจุดหนึ่งก็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ อาจจะเสี่ยงต่อเรื่องของมะเร็งผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ดังนั้น ควรทานฮอร์โมนเพื่อให้รอบเดือนมาตามปกติค่ะ ฮอร์โมนที่ใช้นั้นก็ได้แก่ฮอร์โมนโปรเจสโตเจนหรือยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งยาจะฤทธิ์ที่ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกให้สุกและหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน การรักษาที่ยั่งยืนนั้นคุณควรจะต้องลดน้ำหนักตัวลงด้วย และอาจจะต้องไปพบแพทย์เพื่อประเมินด้วยอัลตราซาวด์ว่ามีภาวะดังกล่าวหรือไม่ จะได้รับการวินิจฉัยและการรักษาได้อย่างถูกต้องต่อไป ภาวะนี้จะสัมพันธ์กับเรื่องของการมีบุตรยาก ดังนั้น ถ้าแต่งงานแล้วและยังไม่มีบุตรก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาต่อไปค่ะ

Anonymous

19 กรกฎาคม 2561 14:14:43 #3

ขอบคุณค่ะคุณหมอสำหรับข้อมูลและคำแนะนำ หนูมีลูก 1คนแล้วค่ะ แต่ก็อยากจะมีอีกสักหนึ่งคน ขอบคุณนะค่ะสำหรับคำตอบหนูจะไปหาหมอตามคำแนะนำที่คุณหมอให้มาค่ะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

20 กรกฎาคม 2561 15:48:44 #4

ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยจะดีที่สุดค่ะ