ปรึกษาเรื่องไข้หวัด | |
yootthana.sata |
วันที่ 09 เมษายน 2013 เวลา 13:25 น.
#1
ถ้าอาการแบบนี้เป็นอะไรมากป่าวครับหรือไข้ออกผื่นธรรมดา |
อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 44 กก. ส่วนสูง: 158 ซม. ดัชนีมวลกาย: 17.6 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
yootthana.sata |
วันที่ 09 เมษายน 2013 เวลา 13:28 น.
#2
|
yootthana.sata |
วันที่ 09 เมษายน 2013 เวลา 13:29 น.
#3
|
yootthana.sata |
วันที่ 09 เมษายน 2013 เวลา 13:29 น.
#4
|
yootthana.sata |
วันที่ 10 เมษายน 2013 เวลา 22:18 น.
#5
สรุปว่าเป็น หัด ครับ และ ตอนนี้ผมก็กำลังติดจากแฟน |
![]() |
วันที่ 12 เมษายน 2013 เวลา 10:56 น.
#6
คุณ yootthana.sata อาจถามแทนพี่สาว, น้องสาวหรือแฟน โดยสรุป ผู้ป่วยเริ่มจากไข้ผนังลำคออักเสบ และเริมที่ปาก ได้ฉีดยา 3 วัน หลังจากนั้นอีก 3 วันจึงมีตุ่ม โดยที่อาการเดิม คือ ไข้ อ่อนเพลียไม่ดีขึ้น รวมแล้วมีไข้ก่อนออกผื่นไม่น้อยกว่า 6 วัน ตุ่มในภาพเป็นตุ่มสีแดงชมพู ขนาดเล็ก ขอบชัด อยู่กระจายกัน ไม่รวมเป็นปื้น ปรากฏตามลำตัว และแขน สาเหตุ อาจเป็นจากแพ้ยาครั้งแรก เนื่องจากได้รับยามาหลายชนิด ทั้งยาฉีดยากิน อาจเป็นการแพ้ยาปฏิชีวนะอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพนิซิลลิน กลุ่มเซฟาโลสปอริน กลุ่มเตตร้าซัยคลิน กลุ่มซัลโฟนาไมด์ กลุ่มมาโครไลด์ กลุ่มควิโนโลน หรือ ยาลดการอักเสบ ซึ่งให้เพื่อลดไข้สูง อาการแพ้ยาสามารถเกิดภายหลังการได้รับยาไม่กี่นาที ถึง 3 สัปดาห์หรือมากกว่าก็ได้ ผื่นแพ้ยาทำให้ไข้ไม่ลด อ่อนเพลีย ปวดทั่วร่างกาย อาจคัน มีตุ่มน้ำขึ้น ต่อมน้ำเหลืองโต ตัวเหลืองตาเหลือง หลังจากผื่นหาย ผิวหนังก็กลับมีสีปกติ หรือเหลือเป็นรอยสีน้ำตาลได้ สาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส ไวรัสที่ทำให้เป็นผื่นลักษณะแบบนี้ มีได้หลายชนิดเช่น หัดเยอรมัน โดยมากผื่นหัดเยอรมันเป็นตามหลังไข้ 2-3 วัน มีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดข้อ ต่อมน้ำเหลืองข้างคอโต เชื้อไวรัสอีกอย่างหนึ่งคือ ไข้เลือดออก ผื่นไข้เลือดออก อาจพบขณะมีไข้ หรือเป็นผื่นแดงทั้งตัวเมื่อไข้ลด กับทั้งปวดท้อง อาเจียนอ่อนเพลีย เจ็บปวดตามร่างกาย เหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เช่นไข้รากสาดน้อย ผื่นขึ้นหลังมีไข้ 5 วัน ผู้ป่วยมีไข้สูงลอย กินอาหารไม่ได้ คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลียมาก ปวดท้อง ทานอาหารไม่ได้ อีกอย่างหนึ่งคือไข้รากสาดใหญ่ ผื่นตามหลังไข้สูง 1 สัปดาห์ อาการไข้สูง ผู้ป่วยมีรอยกัดของตัวไรซึ่งเป็นพาหะเชื้อที่อาศัยอยู่ตามพุ่มไม้ รอยกัดกลายเป็นสะเก็ดแข็งสีดำ มักพบที่แขนขา การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง ทำด้วยการซักประวัติ ตรวจร่างกายอย่างละเอียด และอาจต้องตรวจทางห้องปฏิบัติการอย่างละเอียด ผู้ป่วยไม่ได้เป็นไข้หวัด คุณ yootthana.sata คงต้องแนะนำให้พบแพทย์ครับ |