กระดานสุขภาพ

ตรวจเจอซิฟิลิส 1:2
Anonymous

23 พฤษภาคม 2561 12:51:10 #1

สวัสดีค่ะ ตอนนี้หนูกังวลมากๆ เพราะหนูกำลังจะไปเรียนที่ประเทศจีนทางมหาลัยจึงให้ไปตรวจร่างกาย ก็เลยไปตรวจที่รพ.ตำรวจแล้วปรากฏว่าตรวจเจอค่า VDRL Reacthive 1:2, RPR Reacthive 1:2, TPPA non reacthive ทางพยาบาลที่รพ.ตำรวจบอกว่า อาจจะไม่ได้เป็นซิฟิลิส เนื้อเยื่ออาจจะอักเสบเฉยๆ พยาบาลเลยให้ไปหาหมอนรีเวช พอไปหาหมอนรีเวชคุณหมอบอกว่าอาจจะแค่เนื้อเยื่ออักเสบ เพราะผล TPPA non reacthive คุณหมอเลยให้เจาะเลือดใหม่ แล้วตอนนี้กำลังรอผลตรวจอยู่ รอฟังผลวันที่ 30 พฤษภาค่ะ หนูจึงมีคำถามค่ะ
1. VDRL, RPR, TPPA คืออะไร
2. ผลตรวจเลือดสามารถคลาดเคลื่อนได้มั้ย เพราะตอนไปตรวจที่รพ.ตำรวจอดข้าวและน้ำไป
3. ต้องตรวจแบบไหนถึงจะน่าเชื่อถือได้ที่สุด
4. ผลตรวจบอก 1:2 หนูได้เป็นซิฟิลิสมั้ย ร้ายแรงหรือเปล่า สามารถรักษาได้มั้ยคะ
5. ถ้าเกิดหายแล้วมาตรวจอีกจะยังเจอผลซิฟิลิส 1:2 อยู่มั้ยคะ
6. ผล 1:2 แบบนี้หนูจะได้เรียนต่อที่จีนมั้ยคะ เพราะว่าถิาเกิดตรวจเจอโรคแล้วเป็นโรคติดต่อทางมหาลัยจะส่งกลับประเทศค่ะ ไม่ให้เรียน หนูเป็นคยที่น้ำเหลืองไม่ดีตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ มักจะเป็นแผลเวลาเกา ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ ขอบคุณคุณหมอที่ตอบนะคะ
อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.43 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

24 พฤษภาคม 2561 07:11:48 #2

  • ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป แบ่งเป็น 1.แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คัน ผมร่วงเป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่มีอาการ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม) สำหรับกรณีของคุณ อายุ 19 ปี ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่มีโอกาสที่จะติดเชื้อซิฟิลิส
  • เรื่องการตรวจเลือดนั้น การตรวจ VDRL หรือ RPR เป็นการตรวจคัดกรองว่ามีภูมิต้านทานหรือแอนติบอดี้ที่เกิดจากการที่เซลของร่างกายถูกทำลายหรือได้รับการติดเชื้อซิฟิลิส เป็นการตรวจที่ไม่จำเพาะ อาจจะมีวาเหตุอื่นที่ทำให้ผลการตรวจเป็นบวกได้ จึงต้องมีการตรวจด้วยวิธีที่จำเพาะสำหรับซิฟิลิสคือ TPHA หรือ FTA Abs ถ้าผลเป็นบวก ก็สามารถให้การวินิจฉัยได้ว่าเป็นการติดเชื้อซิฟิลิส ในกรณีของคุณที่ได้ผลเป็นลบ ทางการแพทย์เรียกว่าเป็นผลบวกปลอม หรือ. Biological false positive ซึ่งอาจจะพบได้ในกรณีต่อไปนี้ 1. โรคแพ้ภูมิตัวเองหรือโรค SLE 2. เคยมีการติดเชื้อหรือเป็นโรคบางชนิด เช่น มาลาเรีย วัณโรค โรคเรื้อน เป็นต้น 3. เคยป่วยเป็นโรคปอดบวม 4. เคยฉีดยาเสพติดหรือสารแปลกปลอมเข้าเส้นเลือด หรือ5. สาเหตุอื่นๆหรืออาจจะไม่ทราบสาเหตุ สำหรับเรื่องการไปเรียนต่อนั้น ถ้าผลการตรวจด้วยวิธีเฉพาะยังคงเป็นลบ ทาง รพ. ก็สามารถออกใบรับรองได้ว่า ไม่ได้เป็นโรคซิฟิลิสครับ โดยสรุป น่าจะเป็นเรื่องผลเลือดบวกปลอม