กระดานสุขภาพ

ตกขาวปนเลือด คัน
Anonymous

3 พฤษภาคม 2561 17:33:44 #1

หนูมีอาการตกขาวปนเลือด และมีอาการคันร่วมด้วย หลังมีประจำเดือนประมาณ 5 วันค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นค่ะ และเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน แต่ห่างหายจากการมีเพศสัมพันธ์มาหลายเดือนแล้วค่ะ อยากทราบว่าอาการที่หนูเป็นมันคืออะไรคะ?
อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 40 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.44 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

9 พฤษภาคม 2561 20:18:23 #2

ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุอาการบวมแดง คัน อักเสบบริเวณอวัยวะเพศนั้น มีสาเหตุหลักๆ 2 ประการ ครับ อย่างแรก คือมีการติดเชื้อในช่องคลอดก่อนแล้วทำให้อวัยวะเพศภายนอกมีอาการอักเสบไปด้วย เช่น เชื้อราครับ ซึ่งจะมีตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น อาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ หลังเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำก็ควรเช็ดด้วยผ้าสะดาดให้แห้ง ใช้ชุดชั้นในที่บางไม่อับชื้นง่าย อาจพิจารณาเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่เลยครับ ประการที่สอง คือ มีการแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆภายนอกครับ เช่น ผงซักฝอก ครีม สเปรย์ หรือ ชุดชั้นในต่างๆครับ ซึ่งอาการจะไม่มีตกขาว แต่จะมีเพียงอวัยวะเพศภายนอกบวมแดง คันเป็นหลักครับ การรักษาหลักคือใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์ครับ อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ก่อนนะครับ เนื่องจากจำเป็นต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อน การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ไปทาเชื้อรานั้น อาจทำให้อาการแย่ลงไปอีกนะครับ

ส่วนหากมีอาการตกขาวร่วมกับมีเลือดสดติดออกมาทุกๆครั้งที่มีเพศสัมพันธ์นั้น อาจเกิดจากการที่มีการอักเสบหรือรอยโรคที่ปากมดลูกนะครับ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

Gang*****m

22 พฤษภาคม 2561 10:30:54 #3

ไม่จำเป็นต้องมี พสพ อาการติดเชื้อของช่องคลอดก็สามารถเกิดขึ้นได้ ถ้าเราดูแลตัวเองไม่ดีพอค่ะ ซึ่งอาการที่ จขกท บอกมา น่าจะติดเชื้อตามที่คุณหมอบอกค่ะ แนะนำว่าให้ใช้ยาสอดNeo-Penotran Forteและไม่ใส่กางเกงในอับชื้นหรือใช้ผ้าอนามัยแผ่นเดิมนานๆค่ะ เพราะเราเคยมีอาการติดเชื้อแล้วทำ 2 วิธีนี้คู่กัน หายเลยค่ะ