กระดานสุขภาพ

ใช่อาการติดเชื้อHivหรือเปล่า
Anonymous

13 เมษายน 2561 09:20:02 #1

หนูมีอะไรกับแฟนวันที่28 ก.พ 60 โดยไม่ได้ป้องกันค่ะ แล้ววันที่5 มี.นา มีอาการตกขาวเป็นสีน้ำตาล ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน หนูจึงคิดว่าเป็นเลือดตกค้างเลยซื้อ ยาสตีรเบนโลมาทาน ปจด.มาปกติ หลังจากหมด ปจด. เริ่มมีอาการ แสบช่องคลอด ปัสสาวะเหมือนมีอะไรออกมา ตอนแรกคิดว่าไม่มีอะไร พอผ่านมาไม่กี่วัน เริ่มมีอาการกลืมลำบาก หายใจไม่สะดวก มีไข้ เหมือนมีอะไรติดที่คอ เลยซื้อยาฆ่าเชื้อมากินเอง ตอนแรกก็ดีค่ะ เริ่มหาย สักพักมีอาการเคืองตา ตอนนี้ตาเป็นเส้นเหมือนกับมีหยากไย่ลอยไปมาค่ะ แล้วมีอาการแทรกซ้อนหลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นๆหายๆ บางทีก็ปวดหัว หายใจลำบาก เหมือนคนเป็นโรค ซึ่งตลอดเวลาร่างกายแข็งแรงมาตลอด ไม่เคยมีโรคประจำตัว ณ ปัจจุบันตอนนี้ อาการยังมาๆหายๆบ้าง ตอนนอนเหงื่อไม่ออกแต่มีอาการไม่สบายตัว ร้อนหลัง ใต้ฝ่าเท้าบวมค่ะ เกิดจากอะไรหรือค่ะ
อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.45 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

14 เมษายน 2561 18:49:21 #2

  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์รวมทั้งโรคเอดส์ จะติดเชื้อได้ ต้องทีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งติดเชื้ออยู่ก่อน เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ก็จะมีการติดเชื้อโดยสารคัดหลั่ง เช่น น้ำอสุจิ น้ำในช่องคลอด น้ำเหลืองจากแผลที่อวัยวะเพศ ที่มีเชื้ออยู่จะแพร่ให้อีกฝ่ายที่ยังไม่ติดเชื้อ ในกรณีของคุณ ถ้าคุณไม่ได้มีการร่วมเพศกับคนอื่นเลย และถ้าแฟนคุณไม่ติดเชื้อเอดส์ คุณก็ไม่มีโอกาสที่จะติดเชื้อเอดส์ โดยมีการศึกษาโอกาสของการติดเชื้อเอชไอวีหรือเอดส์จากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อเอดส์ 1 ครั้ง จากมากไปน้อยดังนี้
  • ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5%-1.38%
  • หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.08- 0.1%
  • ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065%-0.1%
  • ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05%
  • ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.01% ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์0.005% อย่างไรก็ตามโอกาสจะเพิ่มขึนถ้าเป็นกามโรคหรือมีแผลด้วย อาการของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งสามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ โดยสรุป ในกรณีของคุณอาการที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นจากสาเหตุอื่นๆ นอกจากนี้พบว่าส่วนใหญ่แล้วจะติดเชื้อเอดส์โดยที่ไม่มีอาการก็ได้ เพราะฉะนั้นถ้าแฟนคุณยังไม่เคยตรวจเลือดเอดส์ แนะนำให้ไปตรวจเลือดเอดส์ทั้งคู่ สามารถใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจครับ