กระดานสุขภาพ

เป็นผื่นตุ่มแดงหัวใสขึ้นจนกลายเป็นสิวหรือฝี
Anonymous

19 มีนาคม 2561 19:09:32 #1

สวัสดีครับ ผมเริ่มมีผื่นหรือตุ่มขึ้นประมาณวันที่ 9 กุมภาพันธ์ จนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลาเดือนกว่า ๆ อาการก็มีผื่นแดงขึ้นเหมือนยุงกัด บางจุดก็มีหัวใสๆ บางจุดก็เหมือนไฝแดงขึ้น ลำตัว หลัง แขน ขา น่อง จักกะแร้ (คือทั้งตัวแต่หน้าและคอไม่ขึ้น) เลยไปซื้อยามากินเองและทาเองจากร้านขายยา ได้มาเป็นยาทา คลอบีเตทครีม และยาแก้แพ้ *** อาการก็ดีขึ้นตามลำดับแต่ ก็มีตุ่มใหม่ขึ้นมา จนกระทั้งยาทาหมด เลยไปซื้ออีกรอบ บอกเภสัชว่ายังไม่หาย รอบนี้ได้มาเป็น เพรดนิโซโลน ทาๆไปสักพักก็คือ เหมือนเดิม จุดเก่าดีขึ้น จุดใหม่ขึ้นมา เลยไปโรงพยาบาลหาคุณหมอ หมอบอกว่า เป็นผิวหนังอักเสบ โรงพยาบาลจ่ายยามาเป็น *** 2 ขวด และยาแก้แพ้ *** ก็ดีขึ้นจนแทบหมด แต่ยาทาจนจะหมด2 ขวดก็ไม่หายขาดทั้งตัวสักที จนกระทั้ง ปัจจุบัน ประมาณ2 วันก่อน จากที่มันขึ้นแถวจักกะแร้ แล้วผมเผลอไปเกา อีกวัน สิวหรือฝีไม่รู้ขึ้น จากตอนแรกที่ผื่นขึ้น ไม่ได้มีปัญหากับชีวิตประจำวันมาก ก็ทายากินยาทุกวันไป เพราะไม่ได้คันถึงขั้นต้องเกาตลอด แต่สาเหตุที่สิวหรือฝีขึ้นจักกะแร้ เกิดจากข้อสันนิฐานตัวเอง ว่าเผลอไปเกาแล้วมือสกปรก จนตอนนี้ปวดสิวหรือฝีอันนี้มากยกมือขึ้นยังปวด เดินต้องกางแขนตลอด ผับติดแนบชิดกันแทบไม่ได้ ไปหาเภสัชต่อ ได้ *** มากิน พึ่งกินไปวันนี้วันแรก แต่อ่านในอินเทอร์เน็ตก็แอบจิตตก ว่าถ้าเป็นฝีต้องผ่าตัด ก็เลยอยากจะ ถามคุณหมอ ว่าผมเป็นอะไรกันแน่ นอกจากนี้ ประมาน3-4 วันก่อน สังเกตหลังตัวเอง ผื่นแบบยุงกัดไม่ขึ้นแล้ว แต่เป็นผื่นเม็ดอีกแบบที่ไม่เคยขึ้นมาก่อน เหมือนสิวมากขึ้น จากรูปที่แนบไป หาข้อมูลเลยไม่แน่ใจว่าแพ้ สตีรอยจาก *** ที่ทาทุกวันเปล่า แต่ถ้าแพ้ทำไม่ขึ้นแค่หลัง

คำถามแยกเป็น 2 ข้อนะครับ
1. จากรูป คุณหมอสันนิฐานว่าเป็นฝีหรือสิวครับ แล้วระดับความอันตรายขนาดไหน หรือกินยา ตามที่ซื้อมาก่อน *** เพราะพึ่งกินไปแค่วันเดียว แต่ตอนนี้ยังปวดและเจ็บอยู่
2. จากอาการผื่น แดงที่ยังเหลือตามตัว ถ้าอยากรักษาให้หายถี่ถ้วน(จริงๆไม่ได้มีผลต่อชีวิตประจำวันแต่รู้สึกรำคาญที่มันไม่หายสักที + กลัวเป็นสิวและฝีอีกถ้าเผลอไปเกา) อยากให้หายทั้งตัวต้องประคองอาการแบบนี้ไปเรื่อยๆคือทายาและยาแก้แพ้ หรือด้วยความเป็นมาเป็นเดือนแล้วควรไปหาหมอเฉพาะทางผิวหนัง
3. แล้วถ้าต้องไปหาหมอจริงๆ แค่คลีนิคผิวหนังก็พอสำหรับอาการเบื้องต้นหรือต้องโรงพยาบาลเท่านั้นครับ

*แพ้ยา clarithromycin, amoxicillin *

ปล. ช่วงนี้ฝึกงาน งานค่อนข้างเยอะเลยไม่ค่อยมีเวลาไปหาหมอเลยครับ ได้แต่ซื้อยาและหาข้อมูลในเน็ตเอา ผมมีโรคประจำตัวอยู่แล้วคือภูมิแพ้ ใต้ตาคล้ำ ถ้าฝุ่นเยอะๆก็จะจมูกตัน จาม น้ำมูกใส ขอบคุณสำหรับคุณหมอที่มาตอบและให้ความรู้นะครับ ขอบคุณครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/6bc82-42481-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/6bc82-42481-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/6bc82-42481-4.jpg

อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 49 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.96 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ.เปรมจิต จันทองจีน

แพทย์โรคผิวหนัง

24 มีนาคม 2561 17:48:10 #2

สำหรับผื่นแดง กระจายตามตัวที่เป็นมานาน ทายาแล้วไม่ดีขึ้น ไม่ได้ตรวจร่างกายอาจบอกได้ไม่ชัดเจนว่าเป็นโรคอะไร ทั้งนี้อาจเป็นได้ทั้งผื่นขุยกุหลาย ผื่นผิวหนังอักเสบบางชนิด หรือการติดเชื้อบางชนิดก็ได้

ส่วนตุ่มฝีที่รักแร้ เห็นด้วยว่าควรรับประทานยาฆ่าเชื้อให้ยุบลงค่ะ ไม่แน่ใจว่าที่แพ้ยาเป็นลักษณะอย่างไร เพื่อรักษาฝีนี้ อาจรับประทานยากลุ่ม clindamycin ได้

สำหรับตุ่มที่คล้ายสิวที่หลัง คิดถึงกลุ่มรูขุมขนอักเสบที่สัมพันธ์กับการทายาสเตียรอยด์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานค่ะ (acneiform eruption) การรักษา ควรหยุดยาทากลุ่มสเตียรอยด์

โดยรวมเนื่องจากมีหลายปัญหา หลายรอยโรค แนะนำไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจร่างกาย ซักประวัติเพื่อเติม เพื่อให้การวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสมต่อไปจะดีกว่าค่ะ

สำหรับแพทย์ผิวหนัง สามารถตรวจสอบรายชื่อได้จาก

DERMATOLOGICAL SOCIETY OF THAILAND : สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย

http://www.dst.or.th/html/index.php?op=article-search_md