กระดานสุขภาพ

มีตุ่มเล็กๆ ขึ้นบริเวณองคชาติ ครับ
Anonymous

15 มีนาคม 2561 19:39:32 #1

http://haamor.com/media/images/webboardpics/6a387-42394-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/6a387-42394-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/6a387-42394-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/6a387-42394-4.jpg

เป็นมาประมาณ 1-2 สัปดาห์ครับ ตุ่มนี้ไม่รู้สึกคัน แต่เวลาเอานิ้วลูบ จะรู้สึก ขุรขระ เวลาอวัยวะเพศแข็งตัวจะเห็นตุ่มนี้ชัดเจนขึ้น ครับ อยากถามคุณหมอ ว่าเป็นตุ่มอะไร ครับ อันตรายไหมครับ มีวิธีรักษาไหมครับ ขอบคุณมากครับ
อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.72 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

16 มีนาคม 2561 15:58:13 #2

เนื่องจากรูปที่ส่งมาไม่ค่อยชัด เห็นเป็นตุ่มเล็กๆที่ส่วนหัวอวัยวะเพศ ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ยังไม่เคยมีการร่วมเพศหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ หรืออาจจะเกิดจากการช่วยตัวเองที่รุนแรงเกินไป ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ผลดีของการขลิบคือทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นแผลเวลาร่วมเพศ มีการศึกษาที่หลายประเทศในทวีปแอฟริกาพบว่าช่วยลดการติดเชื้อเอดส์ได้ประมาณ40% แต่ยังไมมีการศึกษาในประเทศไทย นอกจากนี้ตุ่มที่เห็นอาจจะเป็นตุ่มที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่นต่อมไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนัง จะเป้นตุ่มเล็กๆสีออกเหลืองๆ เรียกว่า Fordyce spot หรือถ้าเป็นตุ่มรอบๆส่วนหัวเรียกว่า Pearly penile papule ซึ่งทั้งสองตุ่มนี้ ไม่ต้องรักษา แต่ถ้ามีความเสี่ยง เช่น มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุง ก็อาจจะเป็นโรคติตด่อ โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของตุ่มที่เป็นและพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ โดยสรุปแนะนำหาหมอครับ