เรียน คุณ Ty17,

ตัวยาคุมกำเนิดเมื่อครบกำหนด ตัวยาก็จะค่อยๆลดลงจนหมดฤทธิ์ไป ทั้งนี้ขึ้นกับประเภทของยาคุมกำเนิดที่แพทย์แนะนำ จะมีทั้งชนิดฉีด ทุก 1 เดือนและ ชนิดทุก 3 เดือน

ซึ่งตัวยาจะแตกต่างกันไป ขึ้นกับความเหมาะสมของผู้รับบริการว่าเหมาะสมกับยาคุมกำเนิดประเภทใด ทั้งนี้ต้องพบแพทย์เพื่อพิจารณาคัดเลือกประเภทของการคุมกำเนิดที่เหมาะสมจะดีที่สุดครับ เนื่องจากในบางรายหากมีข้อห้ามใช้หรือข้อควรระวังเกี่ยวกับฮอร์โมน ก็อาจพิจารณาเป็นการใส่ห่วงทองแดงคุมกำเนิดหรือห่วงคุมกำเนิดเสริมฮอร์โมนแทน
โดยทั่วไปหากไม่มีความผิดปกติของการทำงานของตับหรือไต ตัวยาจะไม่มีการสะสมในร่างกายนะครับ แต่อาจพบการสะสมได้บ้าง ในผู้ที่อ้วน น้ำหนักเกิน เนื่องจากตัวยาจะไปสะสมในไขมัน แต่ก็จะค่อยๆถูกตับที่เป็นแหล่งกำจัดยาทำลายไป ส่วนใหญ่จะกลับมามีโอกาสเหมือนก่อนหน้าภายในไม่เกิน 6 เดือนนะครับ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นกับว่าเป็นผู้มีบุตรยากเองอยู่แล้วหรือไม่ เช่น มีความผิดปกติของการทำงานของรังไข่ มีการตีบตันของท่อนำไข่ มีภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เป็นต้น

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรประจำสถานพยาบาลหรือร้านยาใกล้บ้านได้ทันที "ก่อน" การตัดสินใจเลือกใช้ยา หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นใด ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไป ไม่ทันการ เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพ ถึงแก่ชีวิตได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

• การคุมกำเนิด (Contraception)
• แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
• สูตินรีแพทย์
• ยาฉีดคุมกำเนิด (Injectable contraceptive)
• รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ประนอม บุพศิริ
• สูตินรีแพทย์
• ยาฝังคุมกำเนิด (Contraceptive implant)
• รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิง ประนอม บุพศิริ
• สูตินรีแพทย์