กระดานสุขภาพ

คันที่แถวๆคลิตอลิสมีตุ่มคล้ายๆสิว ทำยังไงจะหายคะไม่กล้าไปหาหมอ
Anonymous

16 พฤศจิกายน 2560 16:25:10 #1

คันมา2 3วันแล้วคันมากจนนอนไม่ได้ เลยลองก้มดูแถวๆคลิตอลิสมีตุ่มขาวๆใหญ่กว่าสิวปกตินิดนึงค่ะเลยลองบีบๆดูมันออกมาเป็นก้อนสีขาวๆกลมๆค่ะมันคืออะไรคะจะเป็นโรคอะไรไหมยังคันอยู่ทำไงดีคะ ไม่กล้าไปหาหมอ
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 166ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.59 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

19 พฤศจิกายน 2560 05:34:16 #2

หมออาจตอบได้คร่าวๆจากการคาดเดานะครับ ซึ่งหากไม่เคยมีประวัติการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนเลย หรือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เลยครับ ซึ่งส่วนใหญ่การอักเสบบริเวณนี้ มักเกิดจากการอักเสบของต่อมขนหรือต่อมไขมันครับ อาจคล้ายกับหัวสิว อาจหากเองได้ถ้าไม่มีการติดเชื้อซ้ำไปครับ และก็ควรดูแลรักษาความสะอาดตามปกติครับ ไม่ให้อับชื้น เป็นต้นครับ ดังนั้น หมอแนะนำให้สังเกตุอาการไปก่อนได้ครับ หากอาการไม่ดีขึ้น มีอาการผิดปกติมากขึ้น ก็ควรมาพบแพทย์นะครับ เพราะ โรคในลักษณะนี้จำเป็นต้องใช้การตรวจรอยโรคครับ แต่การอักเสบของต่อมขนหรือต่อมไขมันมักจะไม่มีอาการคันนะครับ ดังนั้น หากอาการยังไม่หายคันและหากมีอาการบวมแดง คัน อักเสบบริเวณอวัยวะเพศนั้น มักมีสาเหตุจากการติดเชื้อในช่องคลอดก่อนแล้วทำให้อวัยวะเพศภายนอกมีอาการอักเสบไปด้วย เช่น เชื้อราครับ ซึ่งจะมีตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น อาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ประการที่สอง คือ มีการแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆภายนอกครับ เช่น ผงซักฝอก ครีม สเปรย์ หรือ ชุดชั้นในต่างๆครับ ซึ่งอาการจะไม่มีตกขาว แต่จะมีเพียงอวัยวะเพศภายนอกบวมแดง คันเป็นหลักครับ การรักษาหลักคือใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์ครับ อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ก่อนนะครับ เนื่องจากจำเป็นต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อน การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ไปทาเชื้อรานั้น อาจทำให้อาการแย่ลงไปอีกนะครับ