กระดานสุขภาพ

ตกขาวเป็นก้อน ไม่มีกลิ่น ไม่คันมาก
Anonymous

4 พฤศจิกายน 2560 07:18:29 #1

ดิฉัน มีสามีแล้ว อายุ 35 ปี หลังจากที่หมดประจำเดือนของที่ผ่านมาสักประมาณ 2 อาทิตย์ มีความรู้สึกว่าตกขาวมีความผิดปกติจากทุกเดือน คือ เป็นก่อนออกมา ทั้งที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย วันแรกที่รับรู้ตกขาวเป็นก่อน วันนั้นมันออกมามาก และมีกลิ่นด้วย หลังจากวันนั้นก็มีมาตลอด แต่ที่แปลกคือไม่มีกลิ่น และออกน้อยเรื่อยๆ แต่ก็ไม่หมดไป และที่แปลกกว่าก็ไม่ออกมาเลอะกางเกงในตลอดทังวัน จะเลอะก็แค่ช่วงบ่าย ครั้งเดี๋ยวก็หายไป แต่ลองเอานิ้วใส่เข้าไป กลับมีตกขาวติดนิ้วออกมาเป็นก้อน ไม่คัน ไม่แสบเวลาปัสสาวะ อาการแบบนี้อันตรายไหมคะ
อายุ: 35 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.88 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

6 พฤศจิกายน 2560 06:16:56 #2

ปกติแล้ว ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สามารถสังเกตอาการไปได้ก่อนครับ ส่วนหากตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ