โดยทั่วไป สตรีที่หมดประจำเดือนแล้ว ช่องคลอดจะแห้ง มดลูกจะมีขนาดเล็กลงและปากมดลูกจะมีลักษณะตีบแข็ง ถ้ามีสิ่งคัดหลั่งที่อยู่ในโพรงมดลูกอาจจะไม่สามารถไหลออกมาได้จนทำให้เกิดอาการตกขาวผิดปกติ หรือมีน้ำสีขาวไหลออกมาทางรูเล็กๆ ที่ปากมดลูกได้ ถ้ามีการติดเชื้อซ้ำเติมก็จะทำให้ตกขาวที่ออกมานั้นมีกลิ่นเหม็น ซึ่งจำเป็นจะต้องได้รับการรักษา การตรวจ CT Scan นั้น ยืนยันว่ามีน้ำอยู่ในโพรงมดลูก แต่ถ้าไม่มีอาการผิดปกติก็ไม่มีความจำเป็นต้องรักษาแต่อย่างใดปล่อยทิ้งไว้ได้ แต่ถ้ามีลักษณะตกขาวผิดปกติไหลออกมามีกลิ่นเหม็น หมอแนะนำว่าควรทำการเปิดขยายปากมดลูกและดูดเอาสิ่งคัดหลั่งที่อยู่ในโพรงมดลูกออกมาการเปิดขยายปากมดลูกนั้นคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำการขูดมดลูกเพื่อระบายให้สิ่งคัดหลั่งหรือน้ำที่อยู่ในโพรงมดลูกไหลออกมา สามารถเหน็บยา พลอสตาแกลนดิน E1 เพื่อให้ปากมดลูกเปิดขยาย และมีความนุ่มมากขึ้น โดยเหน็บยาประมาณ 6 ชั่วโมงถึง 24 ชั่วโมงอ่างมดลูกก็จะนุ่มแล้ว และหลังจากนั้นก็สามารถใช้ท่อเล็กๆ ดูดเอาสิ่งคัดหลั่งที่อยู่ในโพรงมดลูกออกมาได้ โดยที่ผู้ป่วยไม่มีความจำเป็นต้องไปดมยาสลบขูดมดลูก เนื่องจากอายุเยอะแล้ว อาจจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการดมยาสลบ และการทำผ่าตัดขูดมดลูกได้เช่นกัน

น้ำที่อยู่ในมดลูกเกิดจากสาเหตุใดได้บ้างหรอคะ

น้ำในโพรงมดลูกเกิดจากการอุดตันหรือการตีบ ของบริเวณปากมดลูกทำให้สิ่งคัด ออกมาไม่ได้ค่ะ ไม่มีอันตรายแต่อย่างใดถ้าคนไข้สบายดีไม่มีอาการ

มีปวดบ้างที่ท้องน้อย แต่มีโรคประจำตัวคือลำไส้แปรปรวน สิ่งที่หลั่งออกมาลองดมดูมีกลิ่นนิดหน่อย ถ้าไม่ดมใกล้ๆ ก็ไม่ได้กลิ่นคะ สีจะออกเป็นเมือกข้นๆ บางทีก็ใสเหมือนน้ำมูก กังวลมากเลยคะกลัวจะอันตรายหรือมีเนื้อร้าย

น้ำในมดลูกกับน้ำในช่องท้อง ต่างกันใช่ไหมคะ พอดีอ่านเกี่ยวกับมะเร็งรังไข่พบว่าอาการมีน้ำในช่องท้อง เลยกังวลมากเลยคะ

ในกรณีที่สิ่งคัดหลั่งมีกลิ่นเหม็น และมีอาการปวดท้องน้อยควรจะต้องมาทำการดูดน้ำในโพรงมดลูกออกให้หมดซึ่งสามารถใช้หลอดดูดน้ำคล้ายเข็มฉีดยาและมีหัวดูดน้ำสอดเข้าไปดูดน้ำข้างในโพรงมดลูกออกมาได้ เพราะสิ่งคัดหลั่งที่มีการติดเชื้อจะมีกลิ่นเหม็นและอาจจะทำให้เกิดการอักเสบของตัวมดลูกหรืออุ้งเชิงกรานจนกลายเป็นฝีหนองต่อไปได้ ควรจะต้องเปิดขยายปากมดลูกให้กว้างขึ้น เพื่อที่สิ่งคัดหลั่งจะได้ไหลระบายออกมาได้ ส่วนน้ำในโพรงมดลูกที่พบจากการที่ปากมดลูกตีบ ทำให้สิ่งคัดหลั่งไม่สามารถระบายออกมา ไม่เกี่ยวกับมะเร็ง แต่น้ำในช่องท้องเป็นน้ำที่อยู่ในตัวคนไข้ไม่ใช่ในโพรงมดลูกซึ่งถ้าเกิดจากเรื่องของมะเร็ง อาจจะทำให้เกิดน้ำในช่องท้องได้ เนื่องจากมีเซลล์มะเร็งกระจายไปเกาะตามผนังเยื่อบุช่องท้องจนเกิดการสร้างสิ่งคัดหลั่งขึ้นมาในช่องท้องทำให้ท้องอืด มีอาการท้องโตขึ้น ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันค่ะ

คุณแม่ได้ทำการขูดมดลูดแล้วคะ คุณหมอบอกว่ามีหนองในมดลูกเยอะมาก คุณหมดขูดออกหมด หลังจากการขูดไม่มีหนองไหลอีกเลย ตอนนี้มีปวดท้องจากการขูด การที่มีหนองในโพลงมดลูกเกิดจากอะไรได้บ้างคะ เนื่องจากคุณแม่เป็นมานาน ไปตรวจภายในคุณหมอบอดว่าไม่เป็นอะไร อักเสบจึงให้ยาเหน็บแล้วอาการก็หายไปประมาณ3-4 เดือนเเล้วกลับมาเป็นอีกรักษาเช่นเดิมประมาณ 2 ปี พอกลับมาเป็นครั้งนี้ช่วง 2 เดือนก่อนกน้านี้ไปไปหาหมอ คุณหมอตรวจปากมดลูกเเล้วใช้เครื่องมือสอดในมดลูกเพื่อนำไปตรวจ ประมาณ 1 อาทิตคุณหมอแจ้งว่าไม่มีเชื้อมะเร็ง แค่อักเสบ แต่คุณแม่มีอาการปวดท้องจึงมารักษาที่โรงบาลเอกชนแห่งหนึ่งแล้วเจอน้ำในมดลูกแต่ปรากฎว่าเป็นหนอง ซึ่งคุณแม่กังวลมากเลยคะ จึงอยากปรึกษาคุณหมอคะ

อาการหนองในมดลูก น่าจะเกิดจากการที่ปากมดลูกมีการตีบแคบลง เนื่องจากอายุเยอะขึ้น มีการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้ช่องคลอดบางแห้ง และปากช่องคลอดมีลักษณะตีบแคบลงเรื่อยๆ จึงทำให้สิ่งคัดหลั่งไม่สามารถไหลออกมาได้ แต่แบคทีเรียสามารถผ่านเข้าไปได้จึงทำให้เกิดการติดเชื้อภายในโพรงมดลูกขึ้น เมื่อมีการติดเชื้อก็จะเกิดเป็นฝีหนองขึ้นมา ภายในโพรงมดลูก ตอนนี้คุณได้รับการรักษาโดยการ ดูดเอา น้ำใน โพรงมดลูกออกมาหมดแล้ว ดังนั้น จึงน่าจะทำให้อาการดีขึ้นได้ ตอนนี้ก็รับประทานยาปฏิชีวนะ และพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้น อาจจะต้องใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเพื่อให้ช่องคลอดและปากมดลูกมีความนุ่มมากขึ้น ตัวสิ่งคัดหลั่งจะได้ไหลออกมาได้ดีมากขึ้น เมื่อรักษาหายแล้วก็ไม่มี อันตรายหรือความน่ากลัวแต่อย่างใดค่ะ ควรไปตรวจติดตามตามแพทย์นัดทุกครั้งค่ะ