ตามข้อมูล ก็ 1 เดือน หรือ 3 เดือน 6 เดือน  1ปี

ผลเป็นลบ หมด!!!

แต่อาการ จะเยอะแค่ไหน ผลคือ ลบ ก็คือ ไม่เป็น โรคเอดส์

แล้ว อาการต่างๆ คือ อะไร เกิดจาก สาเหตุอะไร  ดันมาเป็นหลังไป มีความเสียง!!!

ทุกวันนี้ ผลเป็นลบ เหมือนกัน   แต่เรารู้ตัวเองว่า ร่างกายมันเปลียนไป เลยไปตรวจ ทั้งๆ ที่ไม่คิดว่าเสียงเพราะใส่ถุง (แต่มีจูบแลกลิ้นกับ อมสด)

อาการ มาเลยไปตรวจๆๆ  แทบทุกเดือน จน ครบปีกว่า  ผลเหมือนเดิม

ที่ตรวจๆ ไม่ได้อยากให้ บวก นะ  แต่กลัวจะเอาไปติดแฟน เลย ตรวจบ่อยเพราะ เรา มีเพศสัมพนธ์ กับแฟนด้วย แต่ เดือนละ ครั้ง เพราะ  เค้าบอก  นิรนาม ตรวจได้ 1 เดือน แถมส่งตรวจ nat โครงการวิจัย ทุกครั้ง


อาการผม ยังคงเป็นอยู่ลิ้นมีขน  ตาแห้ง ถ่ายไม่เป็นก้อน  ตุ๋มแดงเล็กๆ ชอบขึ้น ที่หน้าท้อง มีกล้ามเนื้อกระตุกเองบ้างเล็กๆ น้อยๆ   ทุกวันนี้

สรุปว่า อาจจะไม่เกียวกับ โรคเอดส์ หรือ HIV  แต่ อาจจะเกิด จากสาเหตุ อืนๆ ที่ หมอ ก็ ยังหาสาเหตุให้ยาก

อาการของการติดเชื้อเอชไอวีซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเอดส์ คือ เมื่อรับเชื้อหรือมีพฤติกรรมเสี่ยงแล้วประมาณ 2-4 อาทิตย์ จะมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่นตามตัว คล้ายออกหัด หรือส่าไข้ เป็นต้น หลังจากนั้น อาการต่างๆก็จะหายไป จนเมื่อมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องซึ่งอาจนานหลายปี (3-5 ปีขึ้นไป) ก็จะเริ่มมีโรคแทรกซ้อน เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ ตุ่มคันตามตัว แขนขา (PPE) น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งสามารถยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่โดยการตรวจเลือด วิธีที่ตรวจได้เร็วที่สุดหลังมีความเสี่ยงคือการตรวจด้วยด้วยวิธี NAAT คือการตรวจส่วนของเชื้อไวรัสเอชไอวีสามารถตรวจได้เร็วขึ้น คือประมาณ 1 อาทิตย์หลังมีความเสี่ยง แต่จะมีตรวจเฉพาะห้องแล็บใหญ่ๆและมักใช้ในงานวิจัย เนื่องจากมีราคาแพง แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 ซึ่งเป็นการตรวจแอนติเจนและแอนติบอดี สามารถตรวจได้หลังมีความเสี่ยงประมาณ 3-4 อาทิตย์ ถ้าผลเป็นลบ ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อ แต่ควรตรวจซ้ำหลังเสี่ยงครบ 3 เดือน ซึ่งถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อเอดส์ ในกรณีของคุณแนะนำว่าให้ตรวจซ้ำที่ 3 เดือนหลังเสี่ยงอีกครั้ง สามารถตรวจโดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ ส่วนเรื่อง ตุ่มเล็กๆที่ขึ้นรอบๆส่วนหัวของอวัยวะเพศ เรียกว่า pearly penile papules เป็นต่อมที่ขึ้นได้ตามธรรมชาติ จะมีขนาดต่างกัน ในบางคนอาจเล็กมากจนสังเกตุไม่เห็น แนบางคนอาจใหญ่และมีตั้งแต่ 1-3 แถว ดูเหมือนเป็นหูดหงอนไก่ ต่อมเหล่านี้ถือว่าเป็นปกติ ไม่ต้องกังวลหรือรักษาแต่อย่างไร ในกรณีที่ใหญ่มากจนมองแล้วไม่สวย มีการใช้เลเซอร์ลบให้เล็กลง แต่ก็อาจเป็นใหม่ได้ หรืออาจจะเป็นตุ่มที่เกิดจากโรคติดต่อ เช่น หูดหงอนไก่ แต่ไม่น่าจะเป็นเริม เพราะเริมจะเป็นตุ่มน้ำแล้วแตกเป็นแผลตื้นๆสรุป ขึ้นกับลักษณะของตุ่ม แนะนำหาหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะหรือถ่ายรูปชัดๆมาให้ดูเพิ่มเติมครับ

ขอบคุณความคิดเห็นจากคุณ d437fคับ ผมรอเวลาไปตรวจอีกรอบอยู่คับ

และก็ขอบคุณคุณหมอด้วยนะคับ เดี๋ยวผมจะรอเวลาครบ3เดือนแล้วไปตรวจคับ

ผมไปหาหมอทางเดินปัสสาวะมาแล้วคับแกบอกอาจจะเป็นเริม และให้ยาฆ่าเชื้อและยาต้านไวรัสมากินและให้ยามาทาด้วยคับ 

แต่ผมอยากให้คุณหมอช่วยดูให้หน่อยคับคือผมกังวลมาก 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Alglen-38802-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Alglen-38802-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Alglen-38802-3.jpg

นี่อะคับมันมีตุ่มขาวๆรอบหัวหยักและมีเป็นกลุ่มอยู่ข้างเส้นสองสลึงทั้งสองข้างคับ

ไม่มีอาการคันหรือเจ็บแตะดูก็รู้สึกเสียวๆจี้ดๆ เวลาปัสสาวะก็รู้สึกปกติคับ 

ช่วยวินิจฉัยอาการให้ผมหน่อยนะคับ ขอบคุณคับ

ดูจากรูปที่ส่งมา ตุ่มเล็กๆที่อยู่รอบๆเป็นตุ่มที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เรียกว่า Fordyce spot ตามที่ได้อธิบายแล้ว ไม่ใช่โรคตอดต่อ ไม่มีอันตราย ส่วนตุ่มที่อยู่สองข้างองเส้นสลึงก็เช่นเดียวกัน เป็นต่อมที่ทำหน้าที่ขับเมือกเพื่อให้ความชุ่มชื้นครับ

เป็นต่อมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่เกี่ยวข้องกับโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ