กระดานสุขภาพ

หนังหุ้มอวัยวะเพศชายลอกและมีอาการแสบ
Kuye*****y

29 สิงหาคม 2560 12:30:07 #1

หนังหุ้มอวัยวะเพศชายของผมมันมีอาการลอกอะครับคาดว่าเกิดจากการแพ้สบู่ตอนแรกมันลอกเป็นขุยๆไม่รู้สึกอะไรแต่ผมยังไม่รู้ว่าแพ้เลยใช้สบู่นั้นซ้ำๆจนตอนนี้ผิวหนังลอกเหมือนขี้ไครลอกแล้วเป็นขาวๆเลยผิวหนังแห้งพอจับแล้วเป็นด้านๆ และบริเวณที่หนังกำลังจะลอกเวลาโดนน้ำก็จะแสบมากแสบหลายจุดมากตอนนี้เนื่องจากกำลังจะลอกหลายจุด ตอนแรกเป็นแค่ตรงอคชาติแต่ตอนนี้ลามมาลอกถึงหนังอัณฑะแล้ว อยากทราบวิธีการรักษาเบื้องต้นครับ

อายุ: 17 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.42 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

30 สิงหาคม 2560 07:24:37 #2

ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศ เช่นไม่เคยเที่ยวหรือยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ หรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกตรั้ง อาการที่ว่าน่าจะมาจากการที่หนังหุ้มปลายแพ้ ระคายเคืองสารที่ใช้ เช่น สบู่ยา ครีม เจลอาบน้ำ ร่วมกับความอับชื้นเนื่องจากหนังหุ้มยังไม่เปิดหรือเปิดไม่สุดหรือรัดเวลาอวัยวะเพศแข็งตัวหรือรูดลงไม่ได้สุด จึงทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง
แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2-4 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ประโยชน์ของการขลิบ คือ ทำความสะอาดง่ายไม่เกิดแผลเวลามีเพศสัมพันธ์และมีการวิจัยที่ทวีปแอฟริกาพบ ว่าการขลิบหนังหุ้มปลายช่วยลดการติดเชื้อเอดส์เมื่อ
เทียบกับคนที่ไม่ขลิบ 40% แต่ ประเทศไทยยังไม่มีการศึกษาเรื่องนี้ แต่ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศ เช่นมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง ก็อาจจะต้องระวังเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่นแผลเริม เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 3-7 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง โดยสรุป ขึ้นกับลักษณะของผื่นหรือแผลที่เป็นร่วมกับพฤติกรรมเสี่ยง แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆและให้ข้อมูลทางเพศมาด้วยครับ