กระดานสุขภาพ

สอบถามเรื่องขับถ่ายค่ะ
Sura*****1

14 สิงหาคม 2560 02:34:38 #1

คือก่อนหน้านี้1เดือนมีอาการแสบท้องตรงกลางคล้ายโรคกระเพาะไปหาหมอกินยาเคลือบกระเพาะ ยาลดกรด แล้วอาการดีขึ้นเป็นพักๆแต่ก็ยังมีอาการแสบท้องอยู่บ้าง แล้วตอนนี้มีอาการถ่ายเหลวตลอด ช่วงเช้าตื่นนอนก็ถ่ายเหลว แล้วหลังจากนั้นเวลากินอาหารก็จะมีอาการปวดท้องถ่าย แต่ถ่ายออกมาก็จะถ่ายเหลว บางครั้งก็เป็นก้อนนิ่มๆเล็กๆมีเศษอาหารปนบ้าง และก็มีมูกค่ะ บางครั้งก็ได้ยินเสียงท้องร้องเป็นบางช่วง น้ำหนัดลดลงนิดหน่อยค่ะ ก่อนหน้านี้เป็นคนไม่ทานผัก ผลไม้ทานนิดหน่อยชอบดื่มน้ำอัดลม อาการอย่างนี้จะเป็นโรคร้ายอะไรไหมค่ะ
อายุ: 30 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.49 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Sura*****1

14 สิงหาคม 2560 02:37:52 #2

เพิ่มเติมค่ะ การถ่ายแต่ละครั้งไม่มีเลือดน่ะค่ะ อุจจาระสีเหลืองค่ะ
พญ.กิติพร กวียานนท์

แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว/เวชศาสตร์ทั่วไป

17 สิงหาคม 2560 16:32:20 #3

จากที่ปรึกษามาคิดถึงอาการของอาหารไม่ย่อย หรือธาตุพิการ (Indigestion หรือ Dyspepsia) คือ อาการไม่สุขสบายที่เกิดขึ้น อาจมีเพียงอาการเดียว หรือหลายๆอาการพร้อมกัน อาจเกิดในขณะกินอาหาร และ/หรือภายหลังกินอาหาร เช่น แน่นท้อง อึดอัด เรอ แสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ บางครั้งอาเจียน

อาหารไม่ย่อย เป็นอาการมักพบในผู้ใหญ่ เป็นอาการพบบ่อยประมาณได้ถึง 25-40% ของประชากรทั้งหมดต่อปี โอกาสเกิดอาการใกล้เคียงกันทั้งในผู้หญิงและในผู้ชาย

อาการอาหารไม่ย่อยเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่พบได้บ่อยที่สุดประมาณ 60%ของผู้มีอาการนี้ทั้งหมด คือ แพทย์หาสาเหตุไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยการตรวจด้วยวิธีใดๆก็ตาม ซึ่งรวมทั้งการตรวจส่องกล้องกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่ง เรียกผู้ป่วยในกลุ่มนี้ว่า Functional dyspep sia

นอกจากนั้นที่พบเป็นสาเหตุของอาการนี้ คือ

  • จากโรคแผลเปบติค หรือ แผลในกระเพาะอาหาร พบได้ประมาณ 15-25%
  • โรคกรดไหลย้อน (ไหลกลับ) หรือโรคเกิร์ด (GERD, Gastroesophageal reflux) พบได้ประมาณ 5-15%
  • โรค มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือโรคมะเร็งหลอดอาหาร พบได้ประมาณ น้อยกว่า 2%
  • นอกนั้น จากสาเหตุอื่นๆที่พบได้บ้างประปราย เช่น โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคตับอ่อนอัก เสบ โรคกระเพาะอาหารบีบตัวได้น้อย โรคขาดน้ำย่อยอาหารบางชนิด เช่น น้ำย่อยน้ำนม โรคเบาหวานมีพยาธิลำไส้ โรคมะเร็งตับ โรคมะเร็งตับอ่อนและจากผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาต้านการอักเสบในกลุ่มเอ็นเสดส์ (NSAIDS, Non-steroidal anti-inflammatory drug)

อาการจากอาหารไม่ย่อยที่พบได้บ่อย คือ

    • แน่น อึดอัดท้อง โดยเฉพาะบริเวณกลางช่องท้องตอนบน มักมีอาการได้ตั้งแต่ใน ขณะกินอาหาร หรือหลังกินอาหารอิ่มแล้ว
    • ปวดท้อง มวนท้อง แต่อาการไม่มาก โดยเฉพาะบริเวณกระเพาะอาหาร (ช่องท้องบริเวณลิ้นปี่/ตรงกลางของช่องท้องตอนบน)
    • แสบ ร้อน บริเวณลิ้นปี่ และ/หรือ แสบร้อนกลางอก
    • อาจมีคลื่นไส้ และ/หรืออาเจียนได้
    • อาจมีท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอ และ/หรือมีแก๊สในกระเพาะอาหารลำไส้มาก

การดูแลตนเอง การพบแพทย์เมื่อมีอาการอาหารไม่ย่อย คือ

  • การปรับพฤติกรรมการกินอาหาร โดยหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงดังได้กล่าวแล้วในหัวข้อปัจจัยเสี่ยง
  • อาจปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยา ซื้อยาลดกรด หรือยาช่วยย่อยอาหารกินเอง
  • ถ้าภายหลังการดูแลตนเองแล้วอาการไม่ดีขึ้นภายใน 3-4 สัปดาห์ หรือเมื่อกังวลในอาการ ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการ
  • แต่ถ้าอาการต่างๆเลวลง ควรรีบพบแพทย์ภายใน 1 สัปดาห์ และ
  • ควรรีบพบแพทย์ฉุกเฉิน เมื่อถ่ายอุจจาระเป็นสีดำเหมือนยางมะตอย หรือมีอาเจียนเป็นเลือด

ป้องกันการเกิดอาการอาหารไม่ย่อยได้โดย การป้องกันสาเหตุ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงดังได้กล่าวแล้วในตอนต้นที่ป้องกันและหลีกเลี่ยงได้ รวมทั้งการปรับพฤติกรรมการกินอาหาร เช่น

    • กินอาหารให้ตรงเวลา
    • กินอาหารแต่ละมื้อไม่ให้อิ่มมากเกินไป
    • เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
    • ไม่กินอาหารรสจัด
    • หลังกินอาหารไม่นอนทันที
    • เคลื่อนไหวร่างกายสักพักหลังกินอาหารเพื่อช่วยการย่อย และการบีบตัวของกระ เพาะอาหารเพื่อขับเคลื่อนอาหารออกจากกระเพาะอาหารได้เร็ว ไม่คั่งค้างให้เกิดอาการ

นอกจากนั้น คือการสังเกตความสัมพันธ์ระหว่างอาการ กับประเภท และปริมาณอาหาร และหลีกเลี่ยง หรือลดปริมาณอาหารเหล่านั้นๆลง ค่อยๆปรับตัวไปเรื่อยๆ