กระดานสุขภาพ

ท้องผูกมาหลายวัน แน่นท้องมาก
Anonymous

11 สิงหาคม 2560 03:25:42 #1

สวัสดีคะ ดิฉันอายุ 30 ปี มีปัญหาท้องผูกมาหลายวัน เริ่มจากไม่ถ่ายเลยมา 3 วัน วันต่อมาเลยกินน้ำมะเขือเทศ ด**** กับน้ำพรุนสกัด ก็ถ่าย แต่ออกมานิดเดียว วันต่อมาก็กินเหมือนเดิม แต่เพิ่มมะละกออีกครึ่งลูก ก็ถ่ายแต่ออกมานิดเดียวเหมือนเดิม วันต่อมากินเม็ดแมงลักกับนมสด เช้ามาถ่ายเป็นแบบท้องเสียเลยคะ และก็กินแบบเดิม แต่ 2 วันมานี้ไม่ถ่ายเลย แน่นท้องมาก แนะนำหน่อยคะ
อายุ: 30 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 49 กก. ส่วนสูง: 162ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.67 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
อาจารย์พีระพรรณ โพธิ์ทอง

นักวิชาการโภชนาการ

15 สิงหาคม 2560 19:04:04 #2

อาการท้องผูกอาจเกิดจากหลายสาเหตุถ้าจะเน้นเรื่องอาหารเป็นหลักก็ต้องพิจารณาจาก

1.กินอาหารที่มีเส้นใยในแต่ละวันเพียงพอหรือไม่

2.ดื่มน้ำในแต่ละวันเพียงพอหรือไม่

3.กินอาหารหรือยาบางอย่างที่เสริมให้ท้องผูกหรือไม่

4.ร่างกายมีการเคลื่อนไหวหรือนั่งติดเก้าอี้เป็นประจำ

 

1. ปริมาณเส้นใยอาหารในแต่ละวันร่างกายควรได้รับ 25 – 35 กรัม เส้นใยอาหารส่วนมากได้จากผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง ถั่ว เป็นต้น

การที่กินน้ำมะเขือเทศ น้ำลูกพรุน มะละกอเพียงครึ่งลูกต่อวันเเส้นใยอาหารไม่เพียงพอแน่นอน ในแต่ละวันควรกินผักให้ได้ 400 กรัมหรือ ½ กิโลกรัมเป็นอย่างน้อยซึ่งก็จะได้ปริมาณเส้นใยมากน้อยแตกต่างกันออกไปตามชนิดของผัก ข้อสำคัญควรกินในทุกมื้ออาหารและทุกวัน

 

ตัวอย่างการกินอาหารเพื่อให้ได้เส้นใยอาหารเพียงพอ

เช้า กินไข่ต้ม 1 ฟอง จะได้เส้นใยอาหาร 0 กรัม

ดื่มนม 1 กล่อง จะได้เส้นใยอาหาร 0 กรัม

ควรกินแอปเปิ้ล 1 ผล เพื่อให้ได้เส้นใยอาหารในมื้อเช้า 3.5 กรัม

เที่ยง ข้าวกะเพราะหมู – ไข่ดาว จะได้เส้นใยอาหาร 0.2 กรัม

มะละกอ ½ ลูก ( ½ กิโลกรัม ) จะได้เส้นใยอาหาร 13.6 กรัม

บ่าย ฝรั่งกิมจู 1 ลูก จะได้เส้นใยอาหาร 3.5 กรัม

เย็น ข้าวกล้อง 2 ทัพพี จะได้เส้นใยอาหาร 1.7 กรัม

แกงส้มผักรวมกุ้ง จะได้เส้นใยอาหาร 3 กรัม

หมูผัดกระเทียมพริกไทย จะได้เส้นใยอาหาร 0 กรัม

รวมจะได้เส้นใยอาหาร 25.5 กรัมต่อวัน

 

2.ควรดื่มน้ำในแต่ละวันให้ได้ 1-1.5 ลิตร ถ้าดื่มกาแฟหรือมีการออกกำลังกายต้องเพิ่มปริมาณเนื่องจากร่างกายมีฤทธิ์ขับน้ำ และร่างกายมีการสูญเสียเหงื่อไปขณะออกกำลังกาย ถ้าร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอจะสังเกตได้จากอุจจาระแข็งมากถ่ายลำบาก และอาจนำมาซึ่งภาวะของโรคริดสีดวงได้


3.กินอาหารหรือยาบางอย่างที่อาจเสริมฤทธิ์ทำให้ท้องผูก เช่น ดื่มน้ำชาจีนเป็นประจำ ในน้ำชามีสารแทนนินซึ่งมีฤทธิ์ให้ท้องผูกได้ การกินกล้วยที่ยังไม่สุกดีพอก็มีสารแทนนินทำให้ท้องผูกได้เช่นกัน ยาบางชนิดก็มีผลทำให้ท้องผูกต้องสอบถามแพทย์หรือ เภสัชกรเพื่อให้ทราบถึงผลข้างเคียงของยาที่กินด้วย นอกจากนี้การกินยาเพื่อช่วยระบายเป็นประจำก็จะมีผลทำให้ท้องผูกมากขึ้นได้

4.ในแต่ละวันควรมีการเคลื่อนไหวร่างกายให้ได้มากสุด ลักษณะการทำงานบางอย่างที่ต้องนั่งติดเก้าอี้อาจเป็นสาเหตุให้ท้องผูกได้

ดังนั้นควรหาเวลาออกกำลังกายบ้างอย่างน้อย 3-4 วันต่อสัปะดาห์

ลองพิจารณาดูว่าปกติการใช้ชีวิตประจำวัน เรื่องอาหารการกินมีส่วนให้ท้องผูกหรือไม่ ถ้าปฏิบัติแล้วยังมีอาการท้องผูกควรพบแพทย์ เพื่อค้นหาสาเหตุต่อไป