กระดานสุขภาพ

รบกวนคุณหมอช่วยวินิจฉัยหน่อยครับ ผมเจ็บทวารหนักและมีติ่ง(มีรูป)
Guho*****b

22 มิถุนายน 2560 16:36:53 #1

ผมเจ็บมาได้สักพักใหญ่แล้วครับ ไม่กล้าไปหาหมอครับ(อาย) จนมันเริ่มเจ็บขึ้น ผมเลยถ่ายรูปดูปรากฏว่ามันมีติ่งออกมาเล็กๆด้วยครับ แบบนี้เป็นโรคอะไรและควรมีแนวทางการรักษาแบบไหนได้บ้างครับ ขอบพระคุณครับ

ขออภัยหากรูปไม่สุภาพด้วยครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/guhotkub-36784-1.jpg

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

http://haamor.com/media/images/webboardpics/guhotkub-36784-2.jpg

อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.95 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

23 มิถุนายน 2560 05:20:43 #2

ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นติ่งเนื้อเล็กๆและมีแผลเล็กๆตื้นๆที่บริเวณทวารหนัก ถ้าคุณไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือไม่ด้เป็นเกย์หรือชายรักร่วมเพศ ไม่ได้มีการสอดใส่ทางทวารหนัก อากรที่เป็นก็อาจจะเป็นติ่งเนื้อที่เป็นแผลเป็นจากการที่เคยเป็นแผลจากการฉีกขาดเวลาที่ถ่ายอุจจาระที่แข็งจากท้องผูกบ่อยๆหรืออาจจะเป็นอาการเริ่มต้นของริดสีดวงทวาร สาเหตุของริดสีดวงทวาร มีหลายอย่าง เช่น ลักษณะนิสัยการถ่ายผิดปกติ (ท้องผูก หรือ ท้องเสีย) ออกกำลังกายน้อย รับประทานอาหารที่มีเส้นใยเช่นผักผลไม้น้อย เบ่งอุจจาระนาน อ้วน และนั่งเป็นเวลานานๆ
ถ้าเป็นมากขึ้น เส้นเลือดจะโป่งออก และโผล่ออกมาอยู่ด้านนอกได้ ถ้ามีการรักษาที่ถุกต้อง ตั้งแต่เรื่องสุขอนามัย การกินอาหารประเภทผัก ผลไม้ ดื่มน้ำมากๆ ปรับเรื่องการขับถ่ายซึ่งการฝึกต้องทำบ่อยๆจนเกิดความเคยชิน หรืออาจรักษาด้วยการฉีดยาให้ยุบ การผูกเส้นเลือด การจี้ด้วยเครื่องมือต่างๆ รวมทั้งการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ถ้ารักษาแล้วก็จะไม่เห็นจากภายนอก แต่ถ้าคุณมีความเสี่ยง เช่น เป็นเกย์และมีการสอดใส่หรือการร่วมเพศทางทวารนัก แผลที่เป็นก็อาจจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยคือเริม เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 3-7 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไป แฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง โดยสรุป ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ แนะนำหาหมอครับ

Guho*****b

23 มิถุนายน 2560 15:11:54 #3

แบบนี้ไม่น่าจะเข้าข่ายฝีคัณฑสูตรใช่ไหมครับผม ผมกลัวมันเป็นฝีอ่ะครับหมอ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

24 มิถุนายน 2560 09:45:04 #4

ฝีคัณฑสูตรเกิดจากการที่มีฝีอักเสบหรือมีแผลที่บริเวณรอบๆทวารหนัก เมื่อเป็นบ่อยๆหรือเป็นๆหายๆ จะทำให้มีเกิดการอักเสบลุกลามเข้าไปในทวารหนัก เมื่อหายก็จะกลายเป็นท่อหรือเป็นช่องที่ทะลุจากผิวหนังเข้าไปในทวารหนัก จึงอาจจะมีอุจจาระออกมาที่ปากแผลหรือฝีได้ ในกรณีของคุณที่เป็นอยู่ยังไม่ใช่เป็นฝีคัณฑสูตร อาจจะเป็นริดสีดวงหรือแผลติดเชื้อเช่นเริม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงทางเพศ เช่นเป็นเกย์ตามที่ได้ตอบไปแล้ว โดยสรุป แนะนำหาหมอครับ