กระดานสุขภาพ

เรื่องกล้ามเนื้อ (อาการแสบจุกที่หลังงซ้ายแถวๆข้างกระดูกสันหลังอนวๆสะบัก)
Anonymous

10 มิถุนายน 2560 21:08:23 #1

ขอถามคุณหมอได้มั้ย หนูมีเรื่องที่คาใจมานานมาก หนูมีความผิดปกติทุกระบบเบย ขับถ่าย ปวดหลัง ระบบหายใจ มันเหมือนกันลมหายใจหนูมันผิดปกติ ฝั่งซ้ายจะปวดจุกเป็นแนวยาวเลยคะ เป็นลมและแน่นมาก หนูคิดว่าน่าจะเกิดจากตอนนึง หนูเอามือไขว้หลัง และก้มหัวลง จากนั้นก็กลืนน้ำลายหลายๆรอบเหมือนกลืนลมคะและเหวี่ยงแขนขึ้นลงพร้อมกัน หลังจากนั้นพอจะเงยหน้าขึ้นแขนข้างหลังก็เหวี่ยงมาข้างหน้าแต่อีกข้างมันติดไม่กลับมาพร้อมกันและก็มีลมดันออกทางทวารแบบยาวมากและมีลมดันขึ้นด้านบนที่จมูกมีกลิ่นพร้อมกับอาการภาพดำและภาพมันหมุนเหมือนบ้านหมุน พอมันทรงตัวได้ภาพในตามองไปก็จะลาง/ๆและหนูก็มีอาการปวดที่หลังซ้ายและหายใจขัดตลอดมาเหมือนร่างกายสองข้างมันไม่เท่ากัน มันเป็นไปได้มั้ยคะที่จะเกิดอะไรแบบนี้ หรือมันไม่ใช่ หนูพยานามหาสาเหตุ เพราะเหมือนร่างกายมีนหย่อนๆคะหมอ ตรวจก็เจอลมและแรงดันมากมาย แต่ปกติหนูไม่เป็รแบบนี้ และอีกเหตุการณ์ หนูมีอาการกังวลกับอาการแพ่ของตัวเองมากมันเหมือนมีอะไรไม่ปกติ หนูพยายามเอาเสมหะในคอออก โดยการทำท่าเคาะปอดตามในเนตเอง และมันก็มีลมดันขึ้นลงๆ หนูก็จับเส้นด้านหลังเกรงมันไปด้านซ้าย จากนั้นมันก็มันแปลกมากคะ แต่มันก็เป็นลมที่ขึ้นมาตลอดเวลาตรงด้านซ้ายจนตอนนี้ กินอาหารก็แสบหลัง มันเป็นไปได้มั้ยคะ ที่ระบบกล้ามเนื้อหนูจะผิดปกติ ลมผิดปกติ คือมันอาจดูแปลกๆว่าหนูเป็นพวกคิดไปเองวิตกกับร่างกายรึป่าวอาจจะใช่ก็ได้คะแต่หนูมีอาการจริงๆ อยากถามคุณหมอว่า 2 เหตุการณ์นี้ มันเกิดขึ้นได้มั้ยคะ และหนูควรทำอย่างไรคะ หนูเคยไปพบจิตแพทย์ แต่หนูไม่เล่าให้เค้าฟังแบบนี้ หมอก็ให้ยามาเป็นยาxanaxคะ แต่หนูอยากถามทางอาการของโรคก่อนว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ ปลหนูอายมากที่ถามแบบนี้แต่มันเกิดกับหนูจริงๆคะหมอ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นคนปกตินะคะ ก็มีกังวลกับอาการปวดถ่สยไม่ได้มีลมดันปวดตุกแสบหลังจุกหายใจลำบากอยู่ หนูเลยกังวล อีกคำถามนะคะ อาการจุกแสบหลังหลังทานอาหารหรือไม่ทานอาหาร มันเกิดจากอะไรคะ มันแวดระบมปวดร้าวตลอดเลย (ตรงข้างๆกระดูกสันหลังค่อนไปซ้ายแถวๆสะบักคะ ทรมานมาก)
อายุ: 26 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.03 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
พญ.กิติพร กวียานนท์

แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว/เวชศาสตร์ทั่วไป

16 มิถุนายน 2560 03:14:34 #2

จากประวัติอาการที่ปรึกษามาในเรื่องของการรู้สึกมีลมดันบริเวณช่องท้องของร่างกาย ไม่สามารถบอกสาเหตุได้ค่ะ แต่ อาจจะเป็นอาการของ อาหารไม่ย่อย หรือธาตุพิการ (Indigestion หรือ Dyspepsia) คือ อาการไม่สุขสบายที่เกิดขึ้น อาจมีเพียงอาการเดียว หรือหลายๆอาการพร้อมกัน อาจเกิดในขณะกินอาหาร และ/หรือภายหลังกินอาหาร เช่น แน่นท้องอึดอัด เรอ แสบร้อนกลางอก คลื่นไส้ บางครั้งอาเจียน

อาการอาหารไม่ย่อยเกิดได้จากหลายสาเหตุ ที่พบได้บ่อยที่สุดประมาณ 60%ของผู้มีอาการนี้ทั้งหมด คือ แพทย์หาสาเหตุไม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยการตรวจด้วยวิธีใดๆก็ตาม ซึ่งรวมทั้งการตรวจส่องกล้องกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่ง เรียกผู้ป่วยในกลุ่มนี้ว่า Functional dyspep sia

นอกจากนั้นที่พบเป็นสาเหตุของอาการนี้ คือ

  • จากโรคแผลเปบติค หรือ แผลในกระเพาะอาหาร พบได้ประมาณ 15-25%
  • โรคกรดไหลย้อน (ไหลกลับ) หรือโรคเกิร์ด (GERD, Gastroesophageal reflux) พบได้ประมาณ 5-15%
  • โรค มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือโรคมะเร็งหลอดอาหาร พบได้ประมาณ น้อยกว่า 2%
  • นอกนั้น จากสาเหตุอื่นๆที่พบได้บ้างประปราย เช่น โรคนิ่วในถุงน้ำดี โรคตับอ่อนอัก เสบ โรคกระเพาะอาหารบีบตัวได้น้อย โรคขาดน้ำย่อยอาหารบางชนิด เช่น น้ำย่อยน้ำนม โรคเบาหวาน มีพยาธิลำไส้ โรคมะเร็งตับ โรคมะเร็งตับอ่อนและจากผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยาต้านการอักเสบในกลุ่มเอ็นเสดส์ (NSAIDS, Non-steroidal anti-inflammatory drug)

ปัจจัยเสี่ยงต่ออาการอาหารไม่ย่อยกลุ่มที่ไม่พบสาเหตุชัดเจน (Functional dyspepsia) ที่พบบ่อย คือ

  • กินอาหารปริมาณมากในแต่ละมื้อ ส่งผลให้น้ำย่อยอาหารไม่เพียงพอที่จะย่อยอาหารได้
  • กินอาหารไขมันมาก อาหารทอด ผัด ที่ใช้น้ำมันมาก ซึ่งอาหารไขมันเป็นอาหารย่อยยาก ตกค้างในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้นาน
  • กินอาหารรสจัด จึงก่อการระคายเคืองต่อเยื่อเมือกบุกระเพาะอาหารและลำไส้
  • กินเร็ว จึงเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด อาหารจึงย่อยยาก
  • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือกบุกระเพาะอาหารและลำไส้
  • สูบบุหรี่ เพราะสารพิษในควันบุหรี่ก่อการระคายเคืองต่อเยื่อเมือกบุกระเพาะอาหารและลำไส้ และกระตุ้นให้กระเพาะอาหารสร้างกรดมากขึ้น
  • ดื่มเครื่องดื่มมีกาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เครื่องดื่มโคล่า เครื่องดื่มชูกำลังบางชนิด เพราะกาเฟอีนกระตุ้นให้กระเพาะอาหารสร้างกรดมากขึ้น
  • กินอาหารกากใยอาหารสูง เพราะย่อยยาก และเป็นอาหารสร้างก๊าช/แก๊สในลำไส้
  • ปัญหาทางอารมณ์ จิตใจ เช่น เครียด กังวล เพราะส่งผลให้กระเพาะอาหารสร้างกรดมากกว่าปกติ และ/หรือมีการบีบตัวเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารลำไส้ผิด ปกติ

อาการจากอาหารไม่ย่อยที่พบได้บ่อย คือ

  • แน่น อึดอัดท้อง โดยเฉพาะบริเวณกลางช่องท้องตอนบน มักมีอาการได้ตั้งแต่ใน ขณะกินอาหาร หรือหลังกินอาหารอิ่มแล้ว
  • ปวดท้อง มวนท้อง แต่อาการไม่มาก โดยเฉพาะบริเวณกระเพาะอาหาร (ช่องท้องบริเวณลิ้นปี่/ตรงกลางของช่องท้องตอนบน)
  • แสบ ร้อน บริเวณลิ้นปี่ และ/หรือ แสบร้อนกลางอก
  • อาจมีคลื่นไส้ และ/หรืออาเจียนได้
  • อาจมีท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอ และ/หรือมีแก๊สในกระเพาะอาหาร ลำไส้มาก

แนวทางการรักษาอาการอาหารไม่ย่อย คือ การรักษาตามสาเหตุ เช่น รักษาโรคแผลเปบติค หรือการปรับเปลี่ยนยาเมื่อเกิดจากผลข้างเคียงของยา เป็นต้น
แต่เมื่อแพทย์วินิจฉัยเป็นอาการอาหารไม่ย่อยจากการไม่ทราบสาเหตุ แนวทางการรักษา คือ การปรับพฤติกรรมการกินอาหาร เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงดังได้กล่าวแล้วในหัวข้อปัจจัยเสี่ยง การให้ยาต่างๆ เช่น ยาลดกรด ยาเพิ่มการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ยาช่วยย่อยอาหาร และยาขับลม/ดูดซึมแก๊สในลำไส้ ทั้งนี้ขึ้นกับอาการของผู้ป่วยและดุลพินิจของแพทย์
ถ้าอาการผู้ป่วยไม่ดีขึ้นภายใน 3-4 สัปดาห์ หรือมีอาการเลวลง หรือ มีอาการผิดปกติอื่นๆ นอกเหนือไปจากอาการเดิม เช่น อุจจาระเป็นสีดำเหมือนยางมะตอย อาเจียนเป็นเลือด น้ำหนักลด แพทย์มักแนะนำการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารและลำไส้ เพื่อการวินิจฉัยหาสาเหตุที่แน่นอน รวมทั้งการวินิจฉัยแยกโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร และโรคแผลเปบติค