กระดานสุขภาพ

ความผิดปกติของการหลั่งเมือกใสของต่อมลูกหมาก
K635*****9

20 พฤษภาคม 2560 21:16:01 #1

สวัสดีครับคุณหมอผมอยากปรึกษาปัญหาสุขภาพครับ ปกติในการที่ผู้ชายหลั่งน้ำอสุจิ จะต้องมีเมือกใสๆเพื่อหล่อลื่นก่อนที่น้ำอสุจิที่ออกมา แต่ของผมกลับไม่เป็นอย่างนั้นคือเวลาหลั่งน้ำอสุจิจะมีอาการขัดครับ และกลังจากหลั่งน้ำกามแล้ว น้ำใสๆถึงไหลออกมาทีหลัง มีครั้งหนึ่งที่ผมมีการหลั่งน้ำกามก่อนนอน แล้วตื่นขึ้นมาน้ำใสๆนี้ถึงไหลออกมาครับ ตอนแรกผมกังวลมากว่าจะเป็นหนองในเทียมรึเปล่า แต่หลังๆก็พบว่าถ้าไม่มีการหลั่งน้ำกาม น้ำใสๆก็ไม่ออกมาครับ //สาเหตุที่ผมกังวลว่าจะเป็นหนองใน เนื่องจากผมเคยมีความเสี่ยงประมาณ 7-8 เดือนที่แล้วครับ และตอนประมาณ 3 เดือนผมไปตรวจเลือด ตรวจanti-hiv และซิฟิลิส ผลคือลบทั่งสอง และจากนั้นก็ไม่เคยมีความเสี่ยงใดๆ//ประวัติผมมีปัญหาเรื่องท่อปัสสาวะตั้งแต่เด็กเลยครับ ต้องคลิป องคชาติไม่ตรง ปัสสาวะไม่สุด เวลาปัสสาวะเสร็จจะชอบมีปัสสาวะเล็ดออกมา
อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 176ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.37 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

22 พฤษภาคม 2560 11:38:24 #2

เมื่อถึงจุดสุดยอดและมีการหลั่งน้ำอสุจิ ในแต่ะคนจะมีปฏิกิริยาไม่เหมือนกัน เป็นการสั่งการจากสมองส่วนกลาง ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ โดยทั่วไป จะมีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณเชิงกราน กล้ามเนื้อรอบๆอวัยวะเพศ จะมีการบีบของท่อน้ำเชื้อเพื่อขับน้ำอสุจิ สำหรับเมือกใสๆอาจจะมีการขับจากต่อมต่างๆที่อยู่ริเวณท่อปัสสาวะ ซึ่งในบางคนอาจจะมีน้อยจนสังเกตุไม่เห็น ส่วนเมือกที่ออกมาหลังจากหลั่งน้อสุจิ อาจจะเป็นเมือกที่ขับออกมาจากต่อมลูกหมาก ในกรณีของคุณถือว่าปกติครับ ส่วนการตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิสแล้วไม่พบ แสดงว่าไม่ได้มีการติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิส สำหรับเรื่องระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น สามารถตรวจได้โดยหมอระบบสืบพันธ์และทางเดินปัสสาวะหรือหมอโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ