กระดานสุขภาพ

ยาคุมกำเนิด
Nini*****a

8 พฤษภาคม 2560 20:25:56 #1

สวัสดีค่ะ พอดีดิฉันทานยาคุมแบบแผง21 เม็ด เริ่มกินวันที่ประจำเดือนมาวันแรก กินมาได้ประมาน 2 อาทิตย์เลือดก็ยังไม่หยุด ปกติจะมา 5-7 วัน ดิฉันก็เลยหยุดกินยาตัวนั้นไปได้ 2 วัน แต่เลือดออกมากกว่าเดิม มันเกิดจากสาเหตุอะไรค่ะ
อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

10 พฤษภาคม 2560 09:58:21 #2

การทานยาคุมที่ถูกวิธีจะต้องเริ่มทานเม็ดแรกของแผงในช่วงที่มีรอบเดือนมาไม่เกิน 5 วันแรกเช่นรอบเดือนมาวันที่ 1 เมษายน ถึง 7 เมษายน ก็สามารถเริ่มรับประทานยาคุมเม็ดแรกได้ตั้งแต่วันที่ 1-5 เมษายน การทานยาคุมจะต้องทานในเวลาเดียวกันของทุกวันบวกลบไม่เกิน 1 ชั่วโมง ไม่ลืมทานยา ถ้าลืมก็อาจจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้ ปัจจุบันยาคุมกำเนิดที่ใช้จะมีชนิด 21 เม็ดและ 28 เม็ดถ้าเป็นชนิด 21 เม็ด จะต้องเว้น 7 วันเพื่อให้รอบเดือนมาจากนั้นก็เริ่มทานแผงใหม่ได้ในวันที่ 8 ไม่ต้องสนใจว่าเลือดจะหยุดหรือไม่ให้เริ่มแผงใหม่ได้เลย แต่ถ้าเป็นชนิด 28 เม็ด สามารถทานแผงชนแผงได้เลย ยาคุมที่ใช้ในปัจจุบันมีชนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำเพียง 15 ถึง 20 ไมโครกรัม ซึ่งยาคุมประเภทนี้จะมีข้อดีคือไม่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนแต่อาจจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้ระหว่างที่ทานยา ถ้าคุณไม่สามารถทนอาการเลือดออกผิดปกติได้ก็ควรเปลี่ยนเป็นยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้นเป็น 30-35 ไมโครกรัม ซึ่งจะไม่ค่อยมีอาการเลือดออกผิดปกติระหว่างทานยาคุม แต่อาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนเวียนศีรษะได้ ดังนั้น ตอนนี้คุณควรกลับไปดูว่าคุณทานยาคุมชนิดใดกันแน่การหยุดทานยาคุมทันที จะทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้แน่นอนตอนนี้ถ้าคุณต้องการกลับมาทานยาคุมใหม่ ควรเลือกยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้น และอย่าหยุดยาคุมทันทีให้ทานจนหมดแผงก่อนค่อยเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิดชนิดใหม่ค่ะ ในกรณีที่มีความสับสน ไม่แน่ใจก็ควรมาพบแพทย์โดยนำแผงยาคุมเดิมมาปรึกษาด้วยค่ะ